เชียงราย - ลูกเขยสุดโหด บึ่งปิกอัพบุกบ้านพ่อตาแล้วชักปืนยิงดับพร้อมแม่ยาย และลูกติดเมียที่กำลังนอนวาดรูปเล่นอยู่เสียชีวิตคาที่ไม่พอ กลับไปบ้านใช้ปืนยิงเมียตัวเอง และลูกติดอีกคนตายอีกรวม 5 ศพ ก่อนจ่อยิงตัวเองปางตาย ทิ้งลูกน้อยวัย 4 เดือนไว้คนเดียว
เย็นวันที่ 23 ก.พ. ร.ต.ท.ประพันธ์ ทะรินทร์ ร้อยเวร สภ.ย่อยบ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิตหลายคนบริเวณร้านขายของชำชื่อพิม-แพม ตั้งอยู่เลขที่ 185 บ้านปางลาว ม.10 ต.บ้านดู่ และบริเวณบ้านเลขที่ 117/1 หมู่บ้านเดียวกัน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.เมืองเชียงราย จากนั้นร่วมกันรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุจุดแรกเป็นร้านของขายชำ มีร่างผู้เสียชีวิต 3 คน นอนอยู่ตามจุดต่างๆ ของร้าน ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วยคือ นายอุดม ชันตาอินทร์ อายุ 55 ปี ถูกยิงเข้าที่ลิ้นปี่ สีข้าง และแขนขวารวม 3 นัด ที่บริเวณข้างบ้านยังพบร่างของ นางกาญจนา ชันตาอินทร์ อายุ 56 ปี ถูกยิงเข้าที่ด้านหลังจำนวน 4 นัด และ ด.ญ.รชิชา มีต่อ อายุ 2 ขวบ ถูกยิงเข้าที่ใบหน้า 1 นัด และเสียชีวิตอยู่ขณะกำลังนอนวาดรูปเล่นอยู่ด้วย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้ออกจากร้านไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตามไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 117/1 ก็พบชาย 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายศักดิ์ชัย จองคำอายุ 40 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวนอนจอมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน ในสภาพบาดเจ็บสาหัสหายใจรวยริน เพราะถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ขมับด้านขวา จำนวน 1 นัด ในมือยังถืออาวุธปืนขนาด .38 เอาไว้อยู่
นอกจากนี้ บริเวณร้านยังพบศพหญิงอีก 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นางรุ่งนภา ใจผาวัง อายุ 33 ปี และศพ ด.ญ.กนกพร มีต่อ อายุ 10 ขวบ ถูกถูกยิงที่ศีรษะเหมือนกัน แต่ภายในบ้านยังเหลือทารกวัย 4 เดือน นอนแบเบาะอยู่โดยไม่ได้รับอันตราย
เจ้าหน้าที่จึงประสานหน่วยกู้ภัยและแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นำตัวนายศักดิ์ชัย ส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน และทำการตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คนดังกล่าว
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนไปซื้อสินค้า และนั่งดื่มกินอยู่ที่ร้านขายของชำหลายคน ได้มีผู้พบเห็นนายศักดิ์ชัย ขับรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บม 7359 เชียงราย เข้าไปจอดที่หน้าร้าน จากนั้นเดินลงจากรถโดยไม่พูดจาใดๆ ก่อนชักอาวุธปืนยิงใส่นายอุดม ซึ่งอยู่ภายในร้าน 3 นัดจนล้มลง ส่วนนางกาญจนา เมื่อเห็นเหตุการณ์พยายามจะวิ่งหนี แต่ก็ถูกยิงเข้าที่หลัง
จากนั้น นายศักดิ์ชัย ยังเดินเข้าไปร้าน และใช้อาวุธปืนยิง ด.ญ.รชิชา ก่อนจะเดินออกออกมาหน้าร้าน และบอกกลุ่มคนที่ไปซื้อของ และดื่มกินกันอยู่ให้แยกย้ายกันกลับได้แล้ว ทำให้แต่ละคนตกตะลึง ก่อนที่นายศักดิ์ชัย จะขับรถออกจากร้านไปยังบ้านของตัวเอง และมีเสียงปืนดังขึ้นที่บ้านอีกหลายนัด จนพบผู้มีผู้เสียชีวิตภายในบ้านอีก 2 คน ส่วนตัวนายศักดิ์ชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่หน้าบ้าน โดยในมือยังถือปืนอยู่
นอกจากนี้ ยังทราบอีกว่า นายศักดิ์ชัย เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.และพนักงานปั๊มเติมน้ำมันแห่งหนึ่ง และได้แต่งงานอยู่กินกับนางรุ่งนภา มาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว มีศักดิ์เป็นเขยของบ้าน โดยมีนายอุดม เป็นพ่อตาที่เปิดร้านขายของชำ แยกออกจากบ้านที่นายศักดิ์ชัย และภรรยาอาศัยอยู่
สำหรับนางรุ่งนภา มีลูกติดมากับสามีเก่าคือ ด.ญ.รชิชา และ ด.ญ.กนกพร แต่ที่ผ่านมาก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายศักดิ์ชัย อยู่เนืองๆ โดยเป็นปัญหาภายในครอบครัวเรื่องการไม่ยอมรับลูกที่ติดมากับภรรยา อีกทั้งต่อมาทั้งคู่ก็มีลูกใหม่ด้วยกันเป็นทารกวัย 4 เดือน ซึ่งนอนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่า ด้วยปัญหาดังกล่าว บวกกับการที่นายศักดิ์ชัย ได้ออกจากงาน ทำให้เกิดความเครียด เมื่อมามีเรื่องทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยารุนแรงขึ้นในเรื่องเดิมๆ แม้ก่อนหน้านี้นายอุดม และญาติๆ พยายามเกลี้ยกล่อมแต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่งเกิดเหตุฆ่ายกครัวอย่างโหดเหี้ยมดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า นายศักดิ์ชัย ได้ถือปืนไปยิงพ่อตา และลูกของนางกาญจนา ที่ร้านขายของชำ ก่อนจะกลับไปก่อเหตุสยองที่บ้านเพิ่มเติม แต่จะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุและการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป
