ไฟไหม้ป่าช้าจีนพะเยา-ยางรถเก่า ทำควันคลุ้งจนตื่นกันทั้งเมือง

พะเยา - คนไทยเชื้อสายจีนพะเยา เผาหญ้าป่าช้ารับเช็งเม้ง เปลวเพลิงลามติดกองยางรถยนต์ทำควันพุ่งขึ้นฟ้าจนแตกตื่นกันทั้งเมือง

หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองพะเยา รับแจ้งทาง 199 ว่า มีเหตุเพลิงลุกไหม้ริมรั้วของบริษัท สุวิทย์ วิษณุก่อสร้าง จำกัด ซึ่งอยู่ติดกับป่าช้าจีนในเขตเทศบาลตำบลท่าวังทอง นอกจากนี้ ไฟยังลุกไหม้ลามไปทั่วป่าช้า และเกรงจะลุกลามเข้ามาในเขตชุมชนวัดบุญยืน เทศบาลเมืองพะเยา เมื่อบ่ายวานนี้ (22 ก.พ.) ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งวิทยุแจ้ง น.ส.จุฬาสินี พรหมเผ่า นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา พร้อมนำรถดับเพลิง 4 คัน รุดไปยังที่เกิดเหตุซึ่งมีไทยมุงติดตามไปเป็นขบวน

นายชูเกียรติ พิสิษฐ์กุล ประธานสภาเทศบาลเมืองพะเยา หุ้นส่วนบริษัทผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า จุดที่เพลิงไหม้เป็นที่เก็บยางรถยนต์เก่า และถังยางมะตอยเก่าจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และไฟที่ลุกไหม้ทำให้มีควันไฟพวยพุ่งดำทะมีนเต็มท้องฟ้า และจากควันไฟที่หนาดำเต็มท้องฟ้าส่งผลให้ประชาชนในตัวเมืองพะเยาพากันแตกตื่นไปทั้งเมือง

ขณะเดียวกัน ภายในป่าช้าจีนก็เกิดไฟลุกไหม้กระจายเป็นบริเวณกว้างโดยไม่มีท่าทีจะสงบ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงจึงต้องประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลท่าวังทอง เจ้าของพื้นที่มาร่วมกันดับไฟ

ส่วนที่กองยางรถยนต์เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถฉีดน้ำสกัดได้ เพราะมีกำแพงบล็อกกั้นอยู่ จึงต้องใช้อุปกรณ์ทำลายกำแพง และมุดเข้าไปฉีดน้ำอย่างใกล้ชิด จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้หลังจากใช้เวลากว่า 30 นาที ส่วนภายในป่าช้าจีนก็ยังมีเปลวไฟลุกไหม้เป็นครั้งคราวอย่างต่อเนื่อง

นายชูเกียรติ กล่าวว่า ที่ป่าช้าจีนแห่งนี้จะมีการเผาต้นไม้ใบหญ้าเป็นประจำทุกปี ช่วงก่อนเทศกาลเช็งเม้ง เปลวไฟลุกลามไปติดใบไม้ที่เลื้อยเข้าในกองยางรถยนต์ จึงเกิดควันไฟพวยพุ่งอย่างน่ากลัว ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ไม่มีการแก้ปัญหา

ด้านนายเสนี มานนท์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าวังทอง ที่รุดมาดูการดับไฟกล่าวถึงปัญหาการเผาในช่วงเทศกาลเช็งเม้งที่ป่าช้าจีนว่า เป็นปัญหาซ้ำซาก โดยเฉพาะในบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่การปกครองถึง 3 เทศบาล คือ เทศบาลเมืองพะเยา เทศบาลตำบลท่าวังทอง และเทศบาลตำบลบ้านต๋อม มีสุสานทั้งไทย จีน แขก รวมอยู่ในที่ดินติดต่อกัน ซึ่งตนจะได้หารือกับสมาคมพะเยาเพื่อแนวทางแก้ไข

โดยควรมีมาตรการร่วมกัน คือ ก่อนจะมีการพัฒนาฮวงซุ้ย จะต้องแจ้งเทศบาลทราบ และทำแนวกันไฟไว้ล่วงหน้า ป้องกันการลุกลามไปยังบ้านเรือนของประชาชนที่เป็นชุมชนหนาแน่น ส่วนเหตุการณ์วันนี้จะประสานตำรวจหาคนรับจ้างทำความสะอาดมาดำเนินคดีต่อไป