ศูนย์ข่าวศรีราชา - กปปส.จากหลายพื้นที่ทยอยเดินทางมารวมตัวที่กองบัญาการตำรวจภูธรภาค2 กดดันและขับไล่ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว. หลังไม่ยอมออกมารับหนังสือ และชี้แจงถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ กทม.
บ่ายวันนี้ (20 ก.พ.) บริเวณข้างกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กลุ่ม กปปส.ชลบุรี จากหลายพื้นที่ทยอยเดินทางมาสมทบอย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันและต้องการให้ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์การสลายการชุมนุม และขอคืนพื้นที่ใน กทม. ทำให้มีประชาชน และตำรวจบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนหลายราย
นางนงนุช มะระเชน ผู้ร่วมชุมนุมกล่าวว่า มาเรียกร้องให้ พล.ต.ต.คัชชา ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสร้างความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของชาวชลบุรีที่สลายการชุมนุม จนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายคน โดยตำรวจอ้างว่าไม่มีอาวุธ มีเพียงกระบองและโล่เท่านั้น แต่ภาพที่ออกตามสื่อมีอาวุธปืน และยิงใส่ประชาชน นอกจากนั้น ยังรุมทุบตีประชาชนที่ไม่มีทางต่อสู้ด้วย
นางนงนุช กล่าวว่า ช่วงแรกเหตุการณ์สลายการชุมนุม และขอพื้นที่คืนนั้นกำลังจะสงบ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากจังหวัดสระแก้ว ออกมาเจรจาพูดคุยกับผู้ชุมนุมแล้ว และยอมทำตาม แต่เพียงไม่กี่นาที พล.ต.ต.คัชชา ได้สั่งการให้สลายการชุมนุม จนเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย และเกิดการเสียชีวิตดังกล่าว
ข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กลุ่ม กปปส.ชลบุรี มารวมตัวเรียกร้องให้ พล.ต.ต.คัชชา มาพบกับผู้ชุมนุม และแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ออกมาพบ หรือชี้แจงให้ประชาชนทราบ ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่ม กปปส. ทำให้เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น และพร้อมตั้งเวทีปราศรัยเพื่อกดดัน และขับไล่ พล.ต.ต.คัชชา ให้ไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แทน โดยชาวชลบุรีไม่ต้อนรับตำรวจเช่นนี้อีกต่อไป
ระหว่างการชุมนุมในพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งอยู่ภายใน ปะปนกับกลุ่มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงอาการยั่วยุตลอดเวลา และกลุ่ม กปปส.พบเห็นชายแต่งกายชุดดำ สวมหมวกไปอยู่บนดาดฟ้าของอาคารทีโอที ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับผู้ชุมชุน ทำให้เกิดการแตกตื่น รวมกันไปเพื่อตรวจสอบหาผู้ต้องสงสัยแต่ก็ไม่พบ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจผิดคิดว่าผู้ชุมนุมจะแห่บุกเข้าไปยังประตูด้านหน้าของกองบัญชาการ จึงได้นำรถ 6 ล้อควบคุมผู้ต้องขังมาปิดกั้น เพื่อป้องกันอีกชั้นหนึ่ง พร้อมนำกองร้อยควบคุมฝูงชนมาตั้งเป็นปราการแนวป้องกันอีกด้วย
