พะเยา - เครือข่ายเกษตรกร 9 อำเภอยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อ 8,000 รายร้อง ผวจ.เร่งกระบวนการรังวัดที่ดินออก สทก. เผยทำชาวบ้านเสียโอกาสร่วมโครงการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล
วันนี้ (20 ก.พ.) ชาวบ้านจาก 9 อำเภอใน จ.พะเยา กว่า 3,000 คน นำโดยนายเรืองเดช ประดิษพัทธิ์น์สกุล ประธานเครือข่ายเกษตรกรจังหวัดพะเยา รวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อเข้ายื่นหนังสือผ่านนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกร้องขอสิทธิทำกิน (สทก.) บนที่ดินที่ทำประโยชน์ทางการเกษตร
เนื่องจากประสบปัญหาไม่มีสิทธิบนที่ดินทำกินของตนเอง เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นที่จับจองในป่าสงวนแห่งชาติและป่าเสื่อมโทรม ทำให้ชาวบ้านเสียประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะสิทธิเข้าร่วมโครงการของรัฐบาล
นายเรืองเดชกล่าวว่า ตนและกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรทั้ง 9 อำเภอได้นำรายชื่อเกษตรกร 8,000 คนมายื่นให้ทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการรังวัดออก สทก. หลังจากก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายเคยเดินทางไปที่กรมป่าไม้เพื่อเสนอปัญหาและข้อเรียกร้องต่ออธิบดีกรมป่าไม้ ในคราวนั้นอธิบดีกรมป่าไม้ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยการของบประมาณในการรังวัดที่ดินจากจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เพราะกรมมีงบประมาณจำกัด ซึ่งตามรายชื่อที่ทางเครือข่ายเสนอในครั้งนี้นั้นจะต้องใช้งบประมาณราว 10 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 2 ปี
และเร็วๆ นี้ทางเครือข่ายจะเสนอต่อรัฐบาลให้อนุมัติเงินประมาณ 30 ล้านบาทดำเนินการรังวัดที่ดิน ขอให้รัฐบาลเร่งอนุมัติที่ สทก.ที่รังวัดแล้วโดยเร็ว และขอให้รัฐบาลอนุมัติให้กรมป่าไม้จ้างเอกชนรังวัดที่ดินเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
ต่อมา นายชูชาติ พร้อมด้วยตัวแทนผู้บริหาร อบจ.พะเยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ารับเรื่อง และเชิญตัวแทนเข้าชี้แจงข้อเรียกร้อง พร้อมทั้งระบุว่า สำหรับที่ สทก.ในพะเยา ปัจจุบันหน่วยงานที่รับผิดชอบสามารถออกเอกสารสิทธิได้เพียงแค่ 100 รายเท่านั้น
ซึ่งการพิจารณาออกเอกสารสิทธิ สทก.นั้นมีกระบวนการและขั้นตอน หลายหน่วยงานต้องดำเนินการร่วมกัน ส่วนอำนาจของผู้ว่าฯ มีขอบเขตที่จะดำเนินการได้ในบางส่วน นอกเหนือจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในลำดับสูงขึ้นไปจนถึงรัฐบาล อย่างไรก็ตาม จังหวัดจะรับเรื่อง และรับฟังปัญหาของประชาชนทุกเรื่อง และจะดำเนินการเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานไปยังรัฐบาลเพื่อพิจารณาแก้ปัญหา ขอให้พี่น้องเกษตรกรติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรจึงแยกย้ายกันเดินทางกลับ
