ศูนย์ข่าวศรีราชา - รพ.แหลมฉบัง เตรียมยกมาตรฐานจากโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่ายเป็นโรงพยาบาลทั่วไป โดยเพิ่มบุคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์ รองรับผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
นายแพทย์ชีวิน ประพันธ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลเตรียมยกมาตรฐานจากโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่ายให้เป็นโรงพยาบาลทั่วไป โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทางและเครื่องมือทางการแพทย์ เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เดินทางมารักษาไม่ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ ที่มีศักยภาพพร้อม
ในช่วงนี้ทางยกมาตรฐานของโรงพยาบาลนั้น ได้ผ่านขั้นตอนระดับจังหวัด และระดับเขตพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างเสนอเรื่องถึงกระทรวงสาธารณสุขก็จะได้รับการยกฐานนะเป็นโรงพยาบาลทั่วไปแล้ว ซึ่งจะต้องรอการพิจารณาอีกระยะหนึ่งเท่านั้น คาดว่าจะได้รับการอนุมัติในเร็วๆนี้
นายแพทย์ชีวิน กล่าวต่อไปว่า ในช่วงนี้ทางโรงพยาบาลดำเนินการปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งปัจจุบันมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรวม 6 สาขา คือ อายุรกรรม ศัลยกรรมกระดูกและข้อ สูติ-นรีเวช กุมารเวชศาสตร์ เวชศาสตร์ครอบครัว โดยจัดคลินิกบริการครอบคลุมการรักษา ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคและฟื้นฟูสุขภาพ จำนวน 17 คลินิก และบริการทันตกรรม 5 สาขา ได้แก่ สาขาปริทันตวิทยา หรือรักษาโรคเหงือก สาขาศัลยกรรมช่องปากและแม็กซิโลเฟเชียล สาขาพรอสโทดอนติก หรือทำฟันปลอม สาขาออโทดอนติกหรือทันตกรรมจัดฟันและสาขาทันตกรรมทั่วไป
นอกจากนั้น มีโครงการก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน 5 ชั้น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณและการก่อสร้างโดยบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) จำนวนเงิน 120 ล้านบาท โดยจะก่อสร้างบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลบนที่ดินราชพัสดุของเทศบาลนครแหลมฉบังที่บริจาคให้กับโรงพยาบาล ,โครงการก่อสร้างอาคารไตเทียมและกายภาพบำบัด 3 ชั้น ด้วยเงินงบประมาณของแผ่นดิน ปี 2557 จำนวนกว่า 17 ล้านบาท
นายแพทย์ชีวิน กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลยังมีโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน 5 ชั้น จำนวน 114 เตียง ด้วยเงินบำรุงโรงพยาบาล ราคาประมาณ 57 ล้านบาท โดยได้รับเงินสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้ป่วยในที่เพิ่มมากขึ้นจนแออัด ,โครงการก่อสร้างอาคารหอพักเจ้าหน้าที่ 4 ชั้น จำนวน 48 ยูนิต ด้วยเงินบำรุงโรงพยาบาล ราคากว่า 15 ล้านบาท เพื่อเป็นที่พักอาศัยให้กับบุคลากรของโรงพยาบาล เนื่องจากอาคารบ้านพักที่มีอยู่ไม่เพียงพอ