ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เผาวัสดุเหลือใช้กองยักษ์หลังศาลากลางจังหวัด ไฟลุกลาม-ควันพวยพุ่งเย้ยมาตรการ “80 วันแห่งการงดเผา” เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควัน ขณะที่ ทสจ.เชียงใหม่ระบุสถานการณ์ดีกว่าปีที่ผ่านมา สั่งเฝ้าระวังพิเศษพื้นที่ 17 ตำบลในแม่แจ่ม และอมก๋อย
ช่วงเที่ยงวันนี้ (11 ก.พ.) เกิดเหตุไฟไหม้กองเศษวัสดุเหลือใช้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ซึ่งกองทิ้งไว้บริเวณลานกว้างหลังอาคารอำนวยการศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ (ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) ใกล้กับหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว และเกิดกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงของ อบจ.มาฉีดน้ำสกัดไฟที่กำลังลุกไหม้ไม่ให้ขยายวงกว้าง และเฝ้าระวังอยู่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากกองเศษวัสดุดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก และยังคงมีไฟปะทุอยู่ด้านล่างที่มีเชื้อไฟเป็นแกลบและเศษกิ่งไม้ใบไม้ สาเหตุเบื้องต้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามาจากการที่คนงานลงมือเผาหรือไม่
ทั้งนี้ การเผากองเศษวัสดุจนเกิดไฟไหม้ลุกลาม และกลุ่มควันเป็นจำนวนมาก เกิดขึ้นระหว่างที่จังหวัดประกาศรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ด้วยการขอความร่วมมือทุกภาคส่วนและทุกระดับของจังหวัดงดการเผาทุกชนิดที่เป็นสาเหตุของปัญหาหมอกควัน ไฟป่า โดยที่เพิ่งมีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดขึ้นมาเมื่อเร็วๆ นี้ ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับพบการเผาขึ้นที่บริเวณใกล้เคียงเสียเอง
ด้านนายประหยัด อนันต์ประดิษฐ์ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด กล่าวว่า ขณะนี้มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2557 ขึ้นแล้ว และได้จัดทำประกาศจังหวัด เรื่อง กำหนดวันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2557 ภายใต้ชื่อ 80 วันแห่งการเฝ้าระวัง และควบคุมหมอกควัน ไฟป่า ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 21 เมษายน ซึ่งจะมีการประชุมรายงานและติดตามสถานการณ์ทุกวันพุธ เวลา 14.00 น.
สำหรับคุณภาพอากาศโดยรวมของจังหวัดะหว่างวันที่ 1-10 กุมภาพันธ์ พบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 18-43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดี-ปานกลาง ทั้งนี้ได้รับรายงานสถิติรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับไฟป่าสะสม ระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 18 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย 195 ไร่ และระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ พบจุดความร้อน (hotspot) สะสม 50 จุด แยกเป็น อ.จอมทอง 6 จุด อ.ฮอด 10 จุด อ.ดอยเต่า 17 จุด อ.แม่แจ่ม 7 จุด อ.เชียงดาว 2 จุด อ.แม่วาง 1 จุด อ.อมก๋อย 5 จุด อ.ดอยหล่อ 1 จุด และ อ.เวียงแหง 1 จุด
ส่วนพื้นที่เสี่ยงและต้องเฝ้าระวังการเผาเป็นพิเศษมีจำนวน 17 ตำบล ใน 2 อำเภอ ได้แก่ 9 ตำบลใน อ.แม่แจ่ม และ 8 ตำบลใน อ.อมก๋อย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเผาซ้ำซากทุกปี เนื่องจากมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดจำนวนมาก โดยได้ประสานขอความร่วมมือไปยังระดับพื้นที่ป้องกันและเฝ้าระวังแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้ถือว่าปัญหาหมอกควัน ไฟป่าของเชียงใหม่อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างดีเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา