เจ้าแม่เงินกู้ชาวพม่ามีสามีคนไทยถูกกิ๊กเก่าชาวพม่าฆ่าโหดคาห้องพักคนงาน

กาญจนบุรี - เจ้าแม่เงินกู้ชาวพม่ามีสามีเป็นคนไทยในเมืองกาญจนบุรี ถูกกิ๊กเก่าชาวพม่าด้วยกันคว้ามีดปอกผลไม้แทงไม่ยั้งจนมีดหักคาอก ไม่หนำใจคว้าก้อนหินทุบใบหน้าจนเละดับสยองคาห้องพักคนงาน แต่ไม่รอดโดนเพื่อนคนงานพม่าด้วยกันจับตัวส่งตำรวจดำเนินคดี เผยเหตุเกิดขณะที่ผู้ตายไปทวงหนี้ แต่ไปเจอกิ๊กเก่าเข้า และถูกตามง้อขอคืนดี แต่ผู้ตายไม่ยอมจึงเกิดทะเลาะกันขึ้น และกลายเป็นศพ

เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (9 ก.พ.) ร.ต.ท.อำนาจ จันทร์บุตร์ พงส.สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ว่า พบร่างหญิงสาวชาวพม่านอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในห้องพัก ตรงข้ามบริษัท ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป จำกัด หมู่ 3 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฤทธิ์รงค์ กันยาประสิทธิ์ ผกก.สภ.ท่าเรือ พ.ต.ท.พิชัยพล ภักดีศิริเกษม รอง ผกก.สส.สภ.ท่าเรือ พ.ต.ต.มานะ สำราญวงศ์ สว.สส.สภ.ท่าเรือ ร.ต.ต.นำพล สุขสุวรรณ รอง สว.สส.ท่าเรือ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าเรือ แพทย์เวร รพ.มะการักษ์

ไปถึงพบคนงานของบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด กำลังมุงดูอยู่ที่หน้าห้องพักเลขที่ C 807 ภายในพบศพคนงานเป็นหญิงสภาพนอนหงายจมกองเลือดศีรษะ และใบหน้าถูกทุบตีด้วยของแข็งจนกะโหลกยุบ หน้าอกซ้ายพบมีดปอกผลไม้ปักคาอยู่ การแต่งกายนุ่งกางเกงขาสั้นแบบสามส่วนสีดำ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นคอกลมสีน้ำเงินทับด้วยเสื้อยืดแขนยาวสีเทา

ตรวจสอบภายในห้องพักพบร่องรอยของการต่อสู้จนข้าวของภายในห้องตกกระจัดกระจาย สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ และแหวนทองยังอยู่ครบ หายไปเฉพาะกระเป๋าสะพายที่มีเงินสดอยู่จำนวนหนึ่ง

จากการตรวจสอบสภาพศพคณะแพทย์ลงความเห็นว่า เป็นการฆาตกรรม เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง และจากการตรวจค้นหาหลักฐานเจ้าหน้าที่พบแท่งหินเจียเปื้อนเลือดตกอยู่ภายในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน หลังจากคณะแพทย์ชันสูตรพลิกศพแล้วเสร็จจึงได้นำศพไปที่โรงพยาบาลมะการักษ์ เพื่อผ่าตัดเอามีดปอกผลไม้ที่ปักอยู่ที่อกด้านซ้ายออก และมอบให้แก่พนักงานสอบสวนเพื่อนำไปเป็นหลักฐาน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังคือ น.ส.มาร์ มาร์ วิน อายุ 33 ปี แรงงานชาวพม่า

สำหรับบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุคือ นายมิน มิน ทัน อายุ 35 ปี แรงงานชาวพม่า หลังก่อเหตุเพื่อนคนงานได้ช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้ภายในห้องพักของผู้เสียชีวิต สภาพร่างกายมีร่องรอยขีดข่วนด้วยเล็บ เสื้อผ้าที่สวมใส่เปื้อนเลือดเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวสอบสวนปากคำที่ สภ.ท่าเรือ ไปก่อนหน้านี้

นายสิทธิพงษ์ ยับเสน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/4 หมู่ 12 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายเป็นภรรยาของตน ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านเพื่อไปที่โรงงานผลิตเนื้อไก่สดส่งเมืองนอก ที่ภรรยาเคยทำงานอยู่ แต่ได้ลาออกจากงานมานานแล้วเพื่อมาเลี้ยงลูกที่บ้าน ก่อนเดินทางได้บอกตนว่าจะไปเก็บเงินค่าดอกเบี้ยเงินกู้ที่ตนและภรรยาปล่อยให้คนงานที่อยู่โรงงานกู้ โดยปล่อยเงินกู้ให้แก่คนงานรวมกันประมาณ 3 แสนบาท มีลูกค้าเงินกู้เป็นจำนวนมาก

ต่อมา ขณะที่ตนอยู่บ้านก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่แจ้งว่า ภรรยาของตนถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในห้องพักคนงาน ด้วยความตกใจตนจึงรีบมาดูซึ่งก็พบว่าเป็นเรื่องจริง ส่วนทรัพย์สินของภรรยาที่นำติดตัวมาด้วยยังอยู่ครบ ส่วนกระเป๋าสะพายของภรรยา ซึ่งภายในมีเงินสดจำนวนหนึ่งหายไป เชื่อว่าคนร้ายคงนำไปเก็บซ่อนเอาไว้ก่อนที่จะถูกเพื่อนคนงานช่วยกันจับกุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน ร.ต.ท.อำนาจ จันทร์บุตร์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนคนงานชาวพม่าซึ่งมีห้องพักติดกันกับห้องที่เกิดเหตุให้การผ่านล่ามว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นผู้ตายเดินเข้าไปภายในห้องคนเดียว ต่อมา นายมิน มิน ทัน คนงานชาวพม่าก็เดินตามเข้าไป ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง มีการตะโกนด่าทอเสียงดังออกมาข้างนอก และได้ยินเสียงคล้ายกำลังทุบตีกัน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามปราม

จนกระทั่งเสียงทะเลาะกันเงียบไป ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ยังไม่เห็นว่ามีใครเดินออกมาจากห้อง เพื่อนๆ คนงานจึงเกิดเอะใจจึงตัดสินใจพากันไปเปิดประตูห้องพักออก และก็พบว่า น.ส.มาร์ มาร์ วิน ได้นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในห้อง โดยมีนายมิน มิน ทัน คนงานชาวพม่านั่งอยู่ภายในห้อง เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด และร่องรอบจากการถูกข่วนจากเล็บ เมื่อทุกคนเห็นจึงช่วยกันจับตัวเอาไว้เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี

จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่าผู้ตายจริง สาเหตุเป็นเพราะผู้ตายกับตนเคยเป็นแฟนกันมาก่อนตั้งแต่สมัยที่ผู้ตายยังทำงานอยู่ที่โรงงานเดียวกัน ต่อมา ผู้ตายได้ไปมีสามีใหม่ ซึ่งเป็นคนไทยจนตั้งท้องจึงลาออกจากงานไปอยู่ที่บ้านสามี ตนพยายามของ้อคืนดีหลายครั้งแต่ผู้ตายไม่ยอม จึงสร้างความเจ็บแค้นใจให้แก่ตนมาโดยตลอด

ก่อนลงมือก่อเหตุตนเห็นผู้ตายเดินเข้าไปในห้องพักคนงานเพียงลำพัง ตนจึงเดินตามเข้าไปเพื่อของ้อคืนดีอีก แต่ผู้ตายไม่ยอม และผู้ตายได้ด่าทอตนจึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ด้วยความโมโหตนจึงคว้าเอามีดปอกผลไม้แทงเข้าที่หน้าอกซ้ายหลายครั้งจนด้ามมีดหักคามือ จากนั้นได้คว้าหินเจียเหล็กตีเข้าที่ศีรษะ และใบหน้าอย่างไม่ยั้งมือ มารู้ตัวอีกทีก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ตนจึงนั่งอยู่ภายในห้องจนกระทั่งมาถูกเพื่อนคนงานจับตัวเอาไว้ได้

หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป