เลย - กลุ่มเกษตรกรในอำเภอเชียงคาน เดือดร้อนหนัก หลังบ่อปลาน้ำแห้งขอด พืชผักแห้งเหี่ยวตายเสียหายนับร้อยไร่ ขณะที่แม่น้ำโขงแห้งไวผิดปกติ ลดลงวันละ 20-30 เซนติเมตรทุกวัน หวั่นเกิดวิกฤตแล้งรุนแรงในรอบ 15 ปี ชาวบ้านต้องรวมกลุ่มขอสูบน้ำโขงเข้าสู่บ่อปลา และแปลงเกษตร
นายบรรยาย ณรงค์ศักดิ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 551 หมู่ที่ 1 ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย ตัวแทนเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงปลาและเกษตรพอเพียง เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา อากาศในจังหวัดเลยได้หนาวติดต่อกันเป็นเวลานาน คาดว่าสภาพอากาศปีนี้จะแห้งแล้งมาก สังเกตได้จากแม่น้ำโขงตามปกติช่วงเดือนกุมภาพันธ์ น้ำโขงยังพอเต็มตลิ่งอยู่ แต่มาปีนี้แม่น้ำโขงได้แห้งขอลงอย่างผิดปกติ
ทำให้พืชไร่ เช่น แปลงมะเขือญี่ปุ่น แห้งตายไปหลายสิบไร่แล้ว โดยทั่วไปจะเห็นโขดหิน สันทรายกลางน้ำโขงเฉพาะในเดือนเมษายนเท่านั้น แต่ปีนี้แค่เดือนกุมภาน้ำโขงเกิดแห้งแล้ว เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากำลังได้รับความเดือดร้อน แต่ละบ่อน้ำแห้งลง ปลาที่ปล่อยไว้กำลังจะตายเพราะขาดน้ำ ซึ่งหลังเกี่ยวข้าวเสร็จ เกษตรกรจะเตรียมพื้นที่ปลูกข้าวโพด แต่ปีนี้ต้องงดปลูก ล่าสุด วันนี้ (9 ก.พ.) ได้มีเกษตรกรหมู่ที่ 1 ถึงหมู่ 6 ต.เชียงคาน ได้รวมกลุ่มขอให้ อบต.เชียงคาน จัดสรรสูบน้ำโขงลงคลองส่งน้ำให้เกษตรกรโดยด่วน โดยเฉพาะกลุ่มเลี้ยงปลาบ่อที่มีสมาชิกกว่า 50 ราย
ด้านนายอธิราช วรรณะ เจ้าหน้าที่พนักงานสูบน้ำเชียงคาน กล่าวว่า ทำงานสูบน้ำมากว่า 10 ปียอมรับว่าปีนี้น้ำโขงแห้งเร็วมาก แค่ช่วงกุมภาพันธ์ น้ำโขงเริ่มแห้งขอดแล้ว โดยระดับน้ำลดลงวันละ 20-30 ซ.ม.ทุกวัน ทาง อบต.เชียงคาน กำลังให้เกษตรกรผู้ขอใช้น้ำช่วยกันทำความสะอาดคลองส่งน้ำในแต่ละหมู่บ้านเพื่อจะได้เร่งสูบน้ำเข้าไปในแปลงเกษตรกรโดยด่วน โดยสถานนีสูบน้ำเชียงคานมีเครื่องสูบน้ำ 150 แรงม้า ระยะส่ง 900 เมตร จะส่งน้ำลงคลองให้เกษตรกรแบ่งปันการใช้น้ำ