ศูนย์ข่าวศรีราชา - โจรพัทยายอดแสบ แฝงตัวเป็นลูกค้าแอบซ่อนตัวในร้านฮาร์ดแวร์ ก่อนขโมยทรัพย์สินร่วมล้านบาทหลบหนีลอยนวล
วันนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ไปตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ที่ร้าน ช.สันติฮาร์ดแวร์ สาย 3 เลขที่ 312/19-23 ปากซอยเล้งกี่ 1 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีทรัพย์สินเป็นเงินสดนับล้านบาทหายไป ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 5 คูหา ด้านล่างเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ตรวจสอบที่ห้องนอนบนชั้นที่ 3 พบประตูห้องที่ทำด้วยไม้มีร่องรอยงัดแงะจนเสียหาย และบานกระจกประตูห้องนอนถูกทุบจนแตก ภายในห้องมีร่องรอยรื้อค้นข้าวของ และทรัพย์สิน ที่ลิ้นชักโต๊ะถูกคนร้ายเปิดออก และขโมยเงินสดที่เก็บไว้ร่วมล้านบาท แหวนเพชร 1 วง ราคาล้านบาทเศษไป
จากการสอบถาม นายกิตติพงษ์ อมรเลิศทรัพย์ อายุ 27 ปี ลูกชายเจ้าของร้านให้การว่า เปิดร้านขายของกับน้องชายตั้งแต่เช้า โดยห้องที่เกิดเหตุนั้นเป็นห้องของพ่อ ซึ่งไปทำธุระที่ อ.สัตหีบ และช่วงที่เปิดร้าจะมีลูกค้าเข้ามาบ่อยจึงไม่ทันสังเกต พอปิดร้านน้องชายก็ขึ้นไปด้านบน พบว่าประตูไม้ที่ห้องพ่อมีร่องรอย อีกทั้งมีเศษกระจกหล่นแตกอยู่ตรวจสอบก็พบว่า ถูกคนร้ายย่องมาก่อเหตุ คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่แฝงตัวเป็นลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้านในช่วงบ่าย และฉวยโอกาสตอนที่เผลอแอบขึ้นไปบนห้องนอนขโมยทรัพย์สิน เนื่องจากสินค้าภายในร้านนั้นมีเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถที่จะมองเห็นลูกค้า หรือคนที่เดินแอบด้านในร้าน และเป็นจังหวะที่วันนี้ไม่ได้เปิดกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถที่จะบันทึกภาพคนร้ายได้
หลังจากตรวจสอบ และสอบสวแล้วจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบหาร่องรอย และหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ไปตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ที่ร้าน ช.สันติฮาร์ดแวร์ สาย 3 เลขที่ 312/19-23 ปากซอยเล้งกี่ 1 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีทรัพย์สินเป็นเงินสดนับล้านบาทหายไป ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 5 คูหา ด้านล่างเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ตรวจสอบที่ห้องนอนบนชั้นที่ 3 พบประตูห้องที่ทำด้วยไม้มีร่องรอยงัดแงะจนเสียหาย และบานกระจกประตูห้องนอนถูกทุบจนแตก ภายในห้องมีร่องรอยรื้อค้นข้าวของ และทรัพย์สิน ที่ลิ้นชักโต๊ะถูกคนร้ายเปิดออก และขโมยเงินสดที่เก็บไว้ร่วมล้านบาท แหวนเพชร 1 วง ราคาล้านบาทเศษไป
จากการสอบถาม นายกิตติพงษ์ อมรเลิศทรัพย์ อายุ 27 ปี ลูกชายเจ้าของร้านให้การว่า เปิดร้านขายของกับน้องชายตั้งแต่เช้า โดยห้องที่เกิดเหตุนั้นเป็นห้องของพ่อ ซึ่งไปทำธุระที่ อ.สัตหีบ และช่วงที่เปิดร้าจะมีลูกค้าเข้ามาบ่อยจึงไม่ทันสังเกต พอปิดร้านน้องชายก็ขึ้นไปด้านบน พบว่าประตูไม้ที่ห้องพ่อมีร่องรอย อีกทั้งมีเศษกระจกหล่นแตกอยู่ตรวจสอบก็พบว่า ถูกคนร้ายย่องมาก่อเหตุ คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่แฝงตัวเป็นลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้านในช่วงบ่าย และฉวยโอกาสตอนที่เผลอแอบขึ้นไปบนห้องนอนขโมยทรัพย์สิน เนื่องจากสินค้าภายในร้านนั้นมีเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถที่จะมองเห็นลูกค้า หรือคนที่เดินแอบด้านในร้าน และเป็นจังหวะที่วันนี้ไม่ได้เปิดกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถที่จะบันทึกภาพคนร้ายได้
หลังจากตรวจสอบ และสอบสวแล้วจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบหาร่องรอย และหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
