อุดรธานี - อคส.หนีบตัวแทนโรงสีข้าวโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ พร้อมหอบหลักฐานขนย้ายให้ตำรวจอุดรธานีสอบสวนกรณีข้าวสาร 3.4 ล้าน กก.หาย เล็งสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกระบวนการขนย้าย ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง จ่อเอาผิดไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ห้องสอบสวน สภ.เมือง จ.อุดรธานี พ.ต.ท.ปิยะวิทย์ วงศ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) นายยุทธศาสตร์ แสนสวนจิตร์ อคส.จังหวัดอุดรธานี และนายประพันธ์ ลุนสา ตัวแทนโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ เข้าพบ พ.ต.ท.นวกฤต นวการพาณิชย์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ เพื่อให้ปากคำกรณีข้าวสารเหนียว ก.ข.6 10% เมล็ดยาว และข้าวหอมมะลิ 105 จำนวน 3,478,011กิโลกรัม หายไประหว่างขนย้ายไปโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ จ.ลพบุรี เพื่อปรับปรุงคุณภาพ และนำไปบรรจุถุงขายให้ประชาชนในราคาถูก โดยใช้เวลาให้ปากคำนาน 3 ชั่วโมง
พ.ต.ท.ปิยะวิทย์เปิดเผยว่า ได้รับหมายจากนายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการ อคส. นำเอกสาร 105 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับกรณีข้าวสาร 3.47 ล้านกิโลกรัมสูญหายไป มามอบแก่พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีจำนวนข้าวรายปีทั่วประเทศของ อคส. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้รายงานให้ทราบว่ามีข้าวสารเหนียว 10% เมล็ดยาว และข้าวสารหอมมะลิ 105 สูญหายไป 3,478,011 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2557 จึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ อคส.มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ถือเป็นกรณีแรกที่ตรวจพบ ซึ่งหากตรวจพบอีกจะดำเนินการเอาผิดทุกกรณีไป
สำหรับข้าวที่สูญหายไปป็นข้าวสารในโครงการจ้างปรับปรุงข้าวสารบรรจุถุงเพื่อลดค่าครองชีพผู้บริโภค ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลที่มอบหมายให้โรงสี 6 แห่งดำเนินการ และโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจเป็นโรงสี 1 ใน 6 โรง ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารใบสั่งการขนย้าย ปรากฏว่าข้าวสารถูกขนย้ายออกจาก จ.อุดรธานี แต่จะไปสูญหายที่ไหน ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานี และลพบุรี
ด้านนายประพันธ์ ลุนสา ตัวแทนของโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจกล่าวว่า ตนมีหน้าที่ขนย้ายข้าว โดยมีพื้นที่รับผิดชอบใน จ.อุดรธานี ขอนแก่น และนครพนม สำหรับการขนย้ายข้าวสาร 3.47 ล้านกิโลกรัม จากโกดังโรงสีอุดรประเสริฐผล ได้ตรวจรายละเอียดทุกอย่างตั้งแต่เอกสารขนย้าย ทะเบียนรถบรรทุก ใช้เวลาขนย้ายประมาณ 1 เดือนจึงเสร็จ ซึ่งรถทุกคันจะต้องถือใบขนย้ายมาคนละใบ และใบขนย้ายจะมี 4 ชุด ตนจะเก็บเอาไว้ 1 ชุด
และเมื่อขนย้ายเสร็จทั้งหมด ตนจะรวบรวมเอกสารใบสั่งขนย้ายแล้วจัดส่งเอกสาร 105 ชุดทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษไปให้ทางโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจเมื่อประมาณเดือนกันยายน 2556 แล้ว ส่วนข้าวสารจำนวนดังกล่าวสูญหายที่ไหนนั้นตนไม่ทราบ เพราะตรวจเช็กที่ต้นทางครบตามจำนวนอย่างถูกต้อง และเอกสารขนย้ายจัดส่งไปให้ทางโรงสีหมดทุกใบแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.นวกฤตกล่าวว่า ตำรวจตั้งสมมติฐานไว้ 3 ประการ คือ ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง อย่างไรก็ตาม ได้ติดต่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาให้ปากคำทุกคนแล้ว เพื่อที่จะได้รายงานผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป หากผลการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวโยงไปถึงบุคคลไม่ว่าระดับใดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที