กาญจนบุรี - ชาวนากาญจนบุรีรวมตัวปิดถนนแยกไฟแดงหน้าศาลากลางจังหวัด เรียกร้องรัฐบาลจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าว จวกผู้ว่าฯ กาญจน์เมินพบชาวนา ส่งรองผู้ว่าฯ เจรจาแทน แต่ไม่เป็นผล ขณะที่กลุ่มชาวนาประกาศก่อนสลายตัวว่า 5 ก.พ.จะมาอีกหากรัฐบาลไม่ยอมจ่ายเงินให้ตามที่รัฐประกาศเอาไว้ เชื่อจะมีชาวนาเดินทางมามากขึ้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (31 ม.ค.) นายไพรวัลย์ เอมสาร์น และนายปราโมทย์ โพธิ์เงิน แกนนำชาวนา พร้อมกลุ่มเกษตรกรชาวนาจังหวัดกาญจนบุรีกว่า 500 คน เดินทางมาที่หน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอพบนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าข้าวตามโครงการรับจำนำข้าว ประจำปี 2556/57 โดยมี นายกาศพล แก้วประพาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเจรจา
บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างตึงเครียด โดยกลุ่มชาวนาได้รวมตัวกันที่ทางขึ้นศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับกล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินทั้งที่รัฐบาลรับปากว่าจะจ่ายเงินให้ก่อนปีใหม่ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ ชาวนารอมานาน และพยายามอดทนอดกลั้น แต่รัฐบาลก็ยังมาผัดวันประกันพรุ่งอยู่ตลอดเวลา และล่าสุด บอกว่าจะจ่ายวันที่ 15 ม.ค.จนขณะนี้สิ้นเดือนแล้วยังไม่ได้รับ สุดท้ายชาวนาทุกคนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กลับไม่มาพบชาวนา เพียงส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดมารับข้อเรียกร้องแทน
ทั้งนี้ นายกาศพล แก้วประพาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พยายามอธิบายความต่างๆ ให้ชาวนาเข้าใจ แต่ไม่เป็นที่พอใจของชาวนาแต่อย่างใด การชุมนุมที่หน้าศาลากลางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นกลุ่มชาวนาทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนไปปิดถนนด้านหน้าศาลากลาง บริเวณ 3 แยกไฟแดงถนนแสงชูโต ทั้งขาเข้า-ออกทำให้การจราจรติดยาวหลายสิบกิโลเมตร
โดย พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจ และจราจรมาคอยอำนวยความสะดวกเส้นทางการจราจร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าวง คอยแนะนำเส้นทางการจราจารบริเวณ 3 แยกไฟแดงท่าล้อ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ให้เลี่ยงไปใช้ถนบายพาสแทน จนถึงขณะนี้กลุ่มชาวนาทั้งหมดยังปิดถนนอยู่ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว
นายเซ้ง ภัทรกิติมากุล อายุ 60 ปี ชาวนาตำบลดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ครอบครัวของตนทำนาประมาณ 90 ไร่ ข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำมีประมาณ 90 ตัน เป็นเงินประมานกว่า 1 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังต้องนำใบประทวนไปจำนำกับ ธ.ก.ส.และเสียดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ข้าวก็เป็นข้าวของชาวนา แต่ชาวนาจะต้องนำข้าวไปจำนำสียดอกเบี้ยที่แพง และบางครั้งไม่มีเงินก็จำเป็นต้องไปกู้เงินนอกระบบที่ดอกเบี้ยแพงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินให้แก่ชาวนาเป็นการด่วน เพราะทุกคนเดือดร้อนจริงๆ
นายอุดม ไม่เปิดเผยนามสกุล กล่าวว่า ชาวนาทุกคนที่เดินทางมาในวันนี้ไม่ได้มีใครเป็นแกนนำ และเรายืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง สิ่งที่เราเรียกร้องเพราะชาวนาต้องการเงินจากโครงการรับจำนำข้าวจริงๆ การปิดถนนในครั้งนี้ก็เพียงแค่ต้องการแสดงสัญลักษณ์ให้ทุกคนทราบเท่านั้น และอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกคนก็จะเดินทางกลับบ้านแล้วแต่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 5 ก.พ.นี้ หากรัฐบาลไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่ชาวนาตามที่รัฐประกาศเอาไว้ เชื่อว่าจะมีชาวนาเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเวลา 13.30 น. นายไพรวัลย์ เอมสาร์น และนายปราโมทย์ โพธิ์เงิน แกนนำชาวนาได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงโทรโข่งว่า เบื้องต้นให้ชาวนาทุกคนเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้าน และในวันที่ 5 ก.พ.ขอให้ชาวนาทุกคนเดินทางมารวมตัวกันภายในบริเวณศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรีอีกครั้งหนึ่ง และให้เตรียมอุปกรณ์เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อาหาร และที่นอนมาด้วย
"เพราะวันนั้นเราจะมารับฟังข้อเสนอของเราคือขอให้รัฐบาลระบุวันที่ให้ชัดเจนว่าจะชำระเงินให้แก่ชาวนาได้ในวันที่เท่าไหร่กันแน่ให้บอกมาชัดๆ ระหว่างนี้ขอให้จังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาเงินทุนสำรองมาจ่ายให้แก่ชาวนาเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวนาไปก่อน ขอให้ธนาคาร ธ.ก.ส.งดเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ออกไปก่อน และขอให้ขยายเวลาการชำระหนี้ให้แก่กลุ่มชาวนา นอกจากนี้หากรัฐบาลโอนเงินจ่ายให้ชาวนาผ่าน ธ.ก.ส.ก็ขอให้ ธ.ก.ส.รีบจ่ายเงินตามคิวทันที หากไม่ได้คำตอบในวันที่ 5 ก.พ.เราจะยกระดับการชุมนุมทันที"