พิษณุโลก - กลุ่มชาวนาพรหมพิราม เมืองสองแคว รวมตัวปิดกลางสี่แยกอินโดจีนอีกครั้ง ประกาศขอข้าวคืนจากรัฐบาลปู ก่อนเอาไปขายสดให้โรงสีตันละ 9 พัน พร้อมให้รัฐชดใช้ค่าเสียหาย 3,279 บาท/ตัน ไม่จำกัดจำนวนไร่ ฐานใช้นโยบายตุ๋นชาวนา
สายวันนี้ (27 ม.ค.) กลุ่มเกษตรกรชาวนา อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ประมาณ 100 คน นายชาตรี อ่ำพูล แกนนำชาวนา อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้มารวมตัวชุมนุม นำรถยนต์ และสมาชิกปิดกลางสี่แยกอินโดจีน ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาเรื่องเงินจำนำข้าวที่ล่าช้าอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 57 กลุ่มชาวนาหลายอำเภอของพิษณุโลกได้ชุมนุมปิดสี่แยกอินโดจีนมาแล้วครั้งหนึ่ง
กลุ่มเกษตรกรได้ประกาศข้อเรียกร้องขอข้าวคืนจากรัฐบาล เอาใบประทวนรัฐบาลคืนไป เพื่อนำข้าวไปขายให้โรงสีในราคาตันละ 9,000 บาทเป็นเงินสด ส่วนที่เหลือ คือค่าดอกเบี้ย-ค่าเสียหายของเกษตรกร รัฐบาลต้องรับผิดชอบจ่ายให้ชาวนาในราคาไร่ละ 3,279 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนไร่ภายใน 45 วัน นับจากวันที่เกษตรกรสามารถนำข้าวไปขายและได้เงินสดแล้ว เพราะรัฐบาลทำผิดต่อเกษตรกรที่ไม่รู้เรื่อง ด้วยการประกาศนโยบายจะช่วยเกษตรกรในราคาเกวียนละ 15,000 บาท แต่รัฐบาลไม่จ่ายให้เกษตร ทำให้เกษตรกรมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาก
นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องประกาศราคากลาง หรือราคาตลาดโลก ผ่านกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้เกษตรกรได้รับรู้ทั่วถึงกันทุกสัปดาห์ ซึ่งกรณีราคากลางจะต้องไม่ต่ำกว่าตันละ 8,000 บาทไม่หักค่าความชื้น ยกเว้นเฉพาะข้าวน้ำท่วม และข้าวที่สดเกินให้เป็นไปตามราคาตลาด
ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องตรึงราคาปุ๋ย ยา และเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรในสภาวะราคาข้าวตกต่ำ พร้อมกับตั้งหน่วยงานกลางขึ้นมารับเรื่องร้องเรียนของเกษตรกรโดยเฉพาะด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดจนถึงเวลาประมาณ 11.20 น.กลุ่มเกษตรกรชาวนายังคงปักหลักชุมนุมปิดกลางสี่แยกอินโดจีนอยู่ เพื่อรอมวลชนเครือข่ายชาวนาที่จะเดินทางมาสบทบ จากนั้นอาจจะเคลื่อนขบวนไปที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกต่อไป โดยมี พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปดูแลความสงบกับกลุ่มชุมนุม
