พระนครศรีอยุธยา - จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สนองงานโครงการพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สู้ภัยแล้ง
วันนี้ (24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำจากสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าสู่อ่างเก็บน้ำ ภายในทุ่งมะขามหย่อง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ และระบายสู่ระบบคลองชลประทานให้แก่เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะหัน
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพน้ำตามคูคลอง อ่างเก็บน้ำภายในจังหวัดพบว่ามีปริมาณไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกการทำนา และทางสำนักชลประทานที่ 12 ได้ประกาศหยุดการส่งน้ำในฤดูแล้งตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2557 เนื่องจากน้ำต้นทุนตามเขื่อนต่างๆ มีน้อย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เตรียมการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยการทำโครงการร่วมกันของชลประทานจังหวัด ป้องกันจังหวัด และอบจ.พระนครศรีอยุธยา ทำการสูบน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ในแหล่งน้ำสาธารณะ ที่บริเวณอ่างน้ำพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง พื้นที่ 283 ไร่ สามารถส่งน้ำจากอ่างน้ำนี้ไปช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาในทุ่งภูเขาทอง ทุ่งลุมพลี และพื้นที่ อ.บางปะหัน อ่างน้ำพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ทุ่งภูเขาทอง) พื้นที่ 154 ไร่ และทุ่งหันตรา จำนวน 27 ไร่
โดยทั้ง 3 อ่างเก็บน้ำจะสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองหันตรา โดยเพิ่มปริมาณน้ำแต่ละอ่างให้สูงขึ้น 50 ซม. น้ำทั้ง 3 อ่าง สามารถกักเก็บไว้ใช้อุปโภคบริโภค และช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาในช่วงฤดูแล้ง เป็นไปตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงจัดสร้างอ่างเก็บน้ำให้กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในยามขาดแคลนช่วยเหลือเกษตรกรในการทำนา น้ำทั้งหมดจะสามารถส่งไปตามระบบของชลประทานตามท่อน้ำ และคันคอลง นอกจากนี้ ยังประสานไปกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้จัดสร้างทำนบชั่วคราวเพื่อเก็บกักน้ำตามคลองธรรมชาติ
สำหรับชลประทานที่มีประตูปิดเปิดระบายน้ำติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสัก ช่วงน้ำทะเลหนุนให้เปิดประตูให้น้ำไหลเข้าไปในพื้นที่ แล้วปิดประตูช่วงน้ำลง ในปีนี้พื้นที่ทำนาปรังของจังหวัดปลูกได้ไม่เกิน 450,000ไร่