อุตรดิตถ์ - “จีระพงษ์” แกนนำชาวนาอุตรดิตถ์เผยเหตุยอมเปิดถนนเพราะ “ตำรวจ” ขู่เช็กบิล ทั้ง “รองพ่อเมือง” รับปากชาวนากว่า 2,000 คนไม่ดำเนินคดีแกนนำ
วันนี้ (23 ม.ค) นายจีระพงษ์ แป้นเพ็ชร ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า หลังเป็นแกนนำชาวนา 7 อำเภอ คือ ท่าปลา นาอิน ทองแสนขัน น้ำปาด บ้านโคก ตรอน และพิชัย กว่า 2,000 คน ปิดถนนหมายเลข 11 อุตรดิตถ์-พิษณุโลก บริเวณ 4 แยกบ้านหนองกวาง หมู่ 2 ต.นายาง อ.พิชัย เพื่อให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการ นำเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าวเปลือกตามโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ดของรัฐบาลที่ค้างจ่ายมากกว่า 3,411 ล้านบาท ชาวนาราว 26,000 ราย นานกว่า 5 เดือนยังไม่ได้รับ
นายจีระพงษ์กล่าวว่า การปิดถนนดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า และไม่มีทีท่าว่าจะได้รับเงินจากรัฐบาล มีเพียงชาวไร่ข้าวโพดเท่านั้นที่พอใจกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เพราะเริ่มทยอยรับเงินชดเชยจากรัฐบาล เดิมชาวนาทั้งหมดตั้งใจจะปิดถนนจนกว่ารัฐบาลจะนำเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าว แต่จำเป็นต้องยอมเปิดถนนให้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้ใหญ่มาบอกว่าจะดำเนินคดีต่อแกนนำ ซึ่งก็หมายถึงตนเองที่นำชาวนาไปปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นที่ใช้รถใช้ถนน อย่างไรก็ตาม หากมีหมายเรียกให้ไปมอบตัวก็พร้อมไป เพราะไม่หนักใจกับเรื่องที่จะตามมา
“วันที่ปิดถนนวันแรกคือวันที่ 20 มกราคมนั้น นายวีระชัย ภู่เพียงใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด มาเจรจากับชาวนาถึงทางออกปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งนายวีระชัยได้รับปากกับผมต่อหน้าชาวนาทั้ง 2,000 คน ว่าหลังเสร็จสิ้นการปิดถนนแล้วจะไม่ให้ตำรวจดำเนินคดีกับแกนนำหรือคนอื่นๆ แต่มีการดำเนินคดีเกิดขึ้นตามมา แสดงให้เห็นว่าคำพูดของนายวีระชัยก็ไม่มีความหมาย เป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้อีกต่อไป”
อย่างไรก็ตาม หากตำรวจยืนยันจะดำเนินการก็จะให้ความร่วมมือในการไปมอบตัวเพื่อต่อสู้คดี แต่จะไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจอีกหากชาวนาปิดถนนอีกรอบ และพร้อมนำกลุ่มชาวนาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องเงินค่าข้าวที่รัฐบาลโกงไปมาคืนชาวนา
ที่ห้องประชุมศรีพนมมาศ ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจาก ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ รวม 100 คน มีนายชาติชาย เสาวภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.น้ำไคร้ เป็นแกนนำ ได้เข้าพบนายวีระชัย ภู่เพียงใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยส่วนต่าง 1.50 บาทต่อ 1 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม นายวีระชัยแจ้งว่าให้ชาวไร่ข้าวโพดไปลงชื่อเพื่อขอรับเงินชดเชยส่วนต่างที่นายอำเภอน้ำปาด เพื่อขอรับเงินชดเชยพร้อมกับกลุ่มชาวไร่ข้าวโพดที่ปิดทางหลวงหมายเลข 11 หรืออุตรดิตถ์-พิษณุโลก บริเวณ 4 แยกบ้านหนองกวาง หมู่ 2 ต.นายาง อ.พิชัย เนื่องจากชาวไร่ข้าวโพดที่มาเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้ร่วมชุมนุมกับกลุ่มปิดถนน ที่หน่วยงานกำลังทยอยมอบเงินให้ โดยครั้งแรกได้รับไปก่อน 29 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรัฐบาลจะจัดสรรมาให้เร็วๆ นี้ ชาวไร่ข้าวโพดพอใจจึงแยกย้ายกลับภูมิลำเนา