พระนครศรีอยุธยา - ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ฝากเฝ้าระวังประชาชนระวังน้ำลดแนวตลิ่งทรุดตัว อาจส่งผลกระทบเสียหายถึงบ้าน พบเห็นแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที
จากเหตุการณ์เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา พบแนวตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณบ้านเลขที่ 12 หมูที่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดการทรุดตัวจนบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย เช่นเดียวกับแนวตลิ่งชุมชนวัดถลุงเหล็ก ที่อยู่เหนือเขื่อนพระราม 6 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่หน้าบ้านเลขที่ 306/1 ม.5 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ เกิดการทรุดตัวพังทลายลงไปในแม่น้ำป่าสักประมาณ 3 เมตร ลึก 2 เมตร ระยะทางความยาวกว่า 100 เมตร ทำให้ต้นมะกอกขนาดใหญ่ 2 ต้น โค่นลงไปภายในแม่น้ำป่าสัก รวมถึงศาลาริมน้ำอีก 2 หลังของบ้านใกล้เคียงได้รับความเสียหายด้วย
และวันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระครูกิตติพัฒนาภรณ์ อายุ 68 ปี เจ้าอาวาสวัดกลาง ม.11 ต.บ้านโพธิ์ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ตลิ่งหน้าวัดกลางที่ติดกับคลองรางจรเข้ เกิดการทรุดตัวเป็นระยะทางยาว จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าตลิ่งได้พังทรุดตัวลงระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ส่งผลทำให้หอระฆังโบราณเอียง ถังน้ำประปาเอียงทรุดตัว รวมถึงกุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ด้วย หวั่นจะพังทลายได้รับความเสียหายหนัก ทั้งนี้ ยังพบว่าระดับน้ำในคลองลดระดับลงบางจุดแห้งจนเกือบขอดคลอง
ด้านนายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ช่วงนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ เริ่มน้อยลง อาจส่งผลกระทบต่อแนวตลิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ อ.ท่าเรือ ตั้งแต่เขื่อนพระราม 6 เป็นต้นมา เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงเนื่องแม่น้ำแคบ เนื่องจากมีเรือขนส่งสินค้าผ่านไปมาก็อาจเป็นส่วนในผลกระทบช่วงที่น้ำน้อย
“จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนเฝ้าสังเกตุระวัง ค่อยดูพื้นที่บ้านของตนเองที่ติดกับแม่น้ำ ถ้าเกิดได้รับความเสียหายให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง หรือทางอำเภอให้ช่วยแก้ไขทันที”