สุรินทร์ - ระทึก! ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองช้าง จู่โจมรวบแก๊งค้าอาวุธปืนให้แก่กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. พ.ต.ท.ประกิจ เหลืองวิลัย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ณัฐฐ์นนท์ สีฟ้า รองสารวัตรสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ จำนวน 15 นาย เข้าซุ่มพื้นที่เป้าหมาย ถนนสายเลี่ยงเมือง หน้าเรือนจำกลางสุรินทร์ บริเวณหน้าเพชรสุรินทร์รีสอร์ท หลังสืบทราบจากสายลับรายงานว่ามีวัยรุ่นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ลักลอบนำอาวุธปืนเข้ามาจำหน่ายซึ่งเป็นอาวุธปืนเถื่อน
พบผู้ต้องสงสัย จำนวน 3 ราย จึงจู่โจมเข้าแสดงตัวจับกุม สามารถจับกุมได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายชาตรี สายแก้ว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.9 ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ นายอรรถพร สุภาษร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.9 ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และนายศุภิจ สายแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 ม.9 ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยปืนสั้นแบบไทยประดิษฐขนาด .22 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก ไม่มีหมายเลขทะเบียน
เบื้องต้นแจ้งข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนปืน และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาจากเจ้าพนักงาน
พ.ต.ท.ประกิจ เหลือวิลัย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า การจับกุมมีขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้สืบทราบว่าจะมีวัยรุ่นลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย บริเวณถนนสายเลี่ยงเมือง หน้าเรือนจำกลางสุรินทร์ ด้านหน้าที่ก่อสร้างเพชรสุรินทร์รีสอร์ท จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบวัยรุ่นทางมีพิรุธจึงเข้าตรวจค้นพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์กระบอกดังกล่าวซุกอยู่ใต้เบาะที่นั่งคนขับ จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า อาวุธปืนดังกล่าวมีลุงอยู่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ให้มา เพื่อนำมาส่งให้แก่ผู้ที่จะมาซื้อในราคา 16,000 บาท และก่อนหน้านี้ ได้มีการนำปืนสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด .22 มม. มาจำหน่ายให้แก่วัยรุ่นในพื้นที่สุรินทร์ จำนวน 2 กระบอก ในราคากระบอกละ 16,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะได้ค่าจ้างเป็นค่าเดินทางนำอาวุธปืนมา โดยเงินที่ได้จากการขายอาวุธปืนจะนำไปเที่ยวเตร่ และเล่นพนันบอล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
