อุตรดิตถ์ - กลุ่มชาวนาอุตรดิตถ์ขู่ยกระดับการชุมนุมปิดสำนักงานพาณิชย์ฯ-ศาลากลางจังหวัดฯ หรือยกคณะเข้ากรุงหากรัฐยังไม่ยอมจ่ายหนี้ชาวนา ยันชุมนุมไม่เกี่ยวการเมือง ไม่เกี่ยวสีเสื้อ แต่ต้องการทวงเงินตัวเองเท่านั้น
วันนี้ (21 ม.ค.) นายจีระพงษ์ แป้นเพ็ชร ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ บอกว่า ชาวนาจาก อ.พิชัย อ.ทองแสนขัน อ.ท่าปลา อ.น้ำปาด อ.บ้านโคก อ.ตรอน และฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ ยังคงปักหลักชุมนุมปิดทางหลวงหมายเลข 11 ที่ทางแยกร้องกวาง หมู่ 2 ต.นายาง อ.พิชัย ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เพื่อเรียกร้องให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการ มาเจรจาจ่ายเงินค่าจำนำข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลให้แก่ชาวนาที่ค้างจ่ายอีกกว่า 3,411 ล้านบาท มานานกว่า 5 เดือนแล้ว
นายจีระพงษ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเกษตรกร อ.บ้านโคก และ อ.ทองแสนขัน มาร่วมลงชื่อเพื่อขอรับเงินชดเชยตามนโยบายแทรกแซงข้าวโพด ตามที่ได้พูดคุยกับนายวีระชัย ภู่เพียงใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่บอกว่ามีเงินอยู่แล้ว 29 ล้านบาทพร้อมที่จะจัดสรรให้เกษตรกร แต่ก็ต้องรองบประมาณที่รัฐบาลจะโอนมาให้อีก 57 ล้านบาท
ส่วนเงินจำนำข้าวเปลือกที่ยังค้างอยู่นั้น รัฐบาลแจ้งว่าจะโอนมาให้วันนี้ 44 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอและถือว่าน้อยมากกับส่วนที่ยังค้างอยู่
นายจีระพงษ์กล่าวว่า การชุมนุมในครั้งนี้เป็นการเรียกร้องเงินจากการขายข้าวของพี่น้องเกษตรกร เราไม่ได้เรียงร้องเงินของรัฐบาล แต่เรียกร้องเงินของพี่น้องเกษตรกรที่ขายข้าวไปแล้วก็ต้องได้เงินคืนมา และขอยืนยันว่าม็อบของจังหวัดอุตรดิตถ์วันนี้เป็นม็อบของเกษตรกรอย่างแท้จริง ไม่เกี่ยวกับ กปปส. ไม่เกี่ยวกับเสื้อแดง ไม่เกี่ยวกับเสื้อเหลือง ไม่เกี่ยวกับการเมือง
ซึ่งหากวันนี้เราไม่ได้รับผลเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่จังหวัดรับปากเราแบบเลื่อนลอยไปมา ก็จะยกระดับการชุมนุมไปอีก โดยอาจจะพากันไปปิดสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ปิดศาลากลางจังหวัด หรือหากคุยกันไม่รู้เรื่องก็จะขอให้ทางจังหวัดจัดรถบัสเพื่อนำเกษตรกรไปพบกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกฯ-รมว.คลัง ที่กรุงเทพฯ และจะมีการยกระดับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจ