ชาวนาบุรีรัมย์เดือดร้อนหนักแห่พึ่งโรงตึ๊ง หลัง รบ.เบี้ยวเงินจำนำข้าว

บุรีรัมย์ - ชาวนาบุรีรัมย์แห่นำสิ่งของมีค่าทั้งทองและผ้าไหมมาใช้บริการโรงรับจำนำวันละ 400-500 ราย เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครัวเรือน ชำระหนี้ทั้งในและนอกระบบ หลังเดือดร้อนหนักรัฐบาลไม่จ่ายเงินค่าจำนำข้าว ขณะโรงจำนำต้องใช้เงินให้บริการวันละ 10 ล้าน มีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

วันนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาจังหวัดบุรีรัมย์แห่นำทองคำรูปพรรณ ผ้าไหม และสิ่งของมีค่าที่มีสะสมอยู่มาใช้บริการที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว และชำระหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมมาลงทุนทำนา ทั้งค่าจ้าง และซื้อปัจจัยการผลิตทั้งในและนอกระบบ วันละประมาณ 400-500 ราย เพิ่มขึ้นจากปกติกว่าหนึ่งเท่า จากปกติมีประชาชนมาใช้บริการวันละ 200-300 ราย ทำให้โรงรับจำนำต้องใช้เงินหมุนเวียนในการรับจำนำไถ่ถอนวันละประมาณ 10 ล้านบาท และเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ของผู้มาใช้บริการจะเป็นเกษตรกรทั้งรายใหม่และรายเก่า ทำให้ช่วงนี้โรงรับจำนำเตรียมเงินสดไว้รองรับการให้บริการกว่า 50 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียนที่มีอยู่อีกกว่า 315 ล้านบาท

นายประเสริฐ สันคำ ผู้ช่วยผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากสถิติการให้บริการของโรงรับจำนำของทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงเกษตรกรขายข้าวแล้วนำเงินมาไถ่ถอนทรัพย์สินที่นำมาฝากไว้ในช่วงต้นฤดูทำนา แต่ปีนี้เกษตรกรกลับนำสิ่งของมีค่ามาจำนำมากกว่า อาจสืบเนื่องมาจากเกษตรกรยังไม่ได้รับเงินจากการขายข้าวแบบประทวนในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ทำให้ได้รับความเดือดร้อนจึงแก้ปัญหาด้วยการนำสิ่งของมีค่ามาฝากไว้ดังกล่าว

ขณะที่ นางสีลา บัวงาม เกษตรกรชาว ต.สองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บอกว่า สาเหตุที่นำสิ่งมีค่ามาจำนำในครั้งนี้เพราะไม่มีเงินใช้จ่ายในครัวเรือนและใช้หนี้สิน เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/57 ที่รัฐบาลผัดผ่อนมานานร่วม 2 เดือนแล้ว จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งนำเงินมาจ่ายให้เกษตรกรโดยเร็วด้วย เพราะขณะนี้เกษตรกรต่างได้รับความเดือดร้อนกันจำนวนมาก