ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 ปรับแผนรับมือชาวอีสานทะลักกลับกรุงหลังเสร็จฉลองปีใหม่ แนะ ปชช.ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนมิตรภาพเพื่อแก้รถติดยาว เผยปัญหาส่วนใหญ่เกิดจาก ปชช.ไม่เชื่อคำแนะนำ จนท.และแห่ใช้บริการปั๊มเดียวกัน ขณะอุบัติเหตุ 4 จว.อีสานใต้ 4 วันสังเวยแล้ว 25 ราย โคราช 13 ศพ ยึดแชมป์ตายสูงสุดของประเทศ
วันนี้ (31 ธ.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ร่วมกันแถลงถึงการปรับแผนรองรับประชาชนเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ หลังเสร็จสิ้นฉลองเทศกาลปีใหม่ 2557
พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ภ.3 กล่าวว่า คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (1 ม.ค. 57) จะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับเข้าไปทำงานยังกรุงเทพฯ หลังเสร็จสิ้นการฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัว ซึ่งจะส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมากโดยเฉพาะถนนมิตรภาพ จากสถิติพบว่า ในช่วงขามามีปริมาณรถที่วิ่งผ่าน จ.นครราชสีมาจำนวน 300.000-500,000 คันต่อวัน ซึ่งรถจำนวนมากดังกล่าวจะมาออกันบนถนนมิตรภาพอีกในช่วงขากลับ
ฉะนั้นทางตำรวจจึงปรับแผนในการบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหารถติดเป็นเวลานาน โดยขอให้ประชาชนไปใช้เส้นทางเลี่ยงแทน โดยผู้ที่เดินทางมาจากอีสานตอนบน เช่น จ.เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น และอุดรธานีฝั่งตะวันตก ให้ไปใช้เส้นทางชัยภูมิ-หนองบัวโคก-บำเหน็จณรงค์-สระบุรี แทน
ส่วนผู้ที่มาจากอีสานตอนล่าง เช่น จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอให้ใช้เส้นทาง นางรอง-ปะคำ-ตาพระยา-สระแก้ว-ปราจีนบุรี หรือใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 304 ปักธงชัย-วังน้ำเขียว-กบินทร์บุรี-ปราจีนบุรี ซึ่งแม้เป็นเส้นทางอ้อมเข้ากรุงเทพฯ ประชาชนเสียเวลาเดินทางบ้าง แต่เชื่อว่าจะหลีกเลี่ยงรถติดบนถนนมิตรภาพได้ไม่น้อยกว่า 5-6 ชั่วโมง
นอกจากนี้ หากเข้ามาในเส้นทางหลักถนนมิตรภาพแล้วเกิดสภาพการจราจรติดขัด ก็สามารถออกไปใช้ทางเลี่ยงเป็นช่วงๆ ได้ ซึ่งจะมีป้ายและเจ้าหน้าที่คอยแนะนำตลอดเส้นทางเลี่ยง ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยหรือจะหลงทางเพราะเจ้าหน้าที่ได้ติดป้ายและมีการจัดกำลังเข้าไปประจำตามจุดต่างๆ อยู่แล้ว
พล.ต.ท.ธีระศักดิ์กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ทำให้รถติดส่วนใหญ่มักเกิดจากประชาชนไม่เชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และมักแวะเข้าใช้บริการปั๊มน้ำมันเดียวกัน คือปั๊ม ปตท. ทำให้รถล้นทะลักออกมาบนพื้นที่ผิวจราจรจนเกิดปัญหารถติดยาว ซึ่งอยากฝากให้ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันรายอื่นปรับปรุงการให้บริการทั้งร้านสะดวกซื้อและห้องน้ำให้สะอาดเพื่อเป็นทางเลือกของประชาชน และอีกปัญหาสำคัญคือ บริเวณทางร่วมทางแยก ให้รถวิ่งช่องทางหลัก อย่าวิ่งไหล่ทางแล้วเบียดเข้าข้างหน้าเพราะจะทำให้เกิดคอขวด
ด้าน นายมนตรี ชนะชัยวิบูลวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา (ปภ.เขต 5 นครราชสีมา) เปิดเผยว่า สำหรับสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ในพื้นที่ 4 จังหวัดเขตความรับผิดชอบคือ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ช่วง 7 วันอันตราย (27 ธ.ค. 56-2 ม.ค. 57) โดย 4 วันแรก ระหว่างวันที่ 27-30 ธ.ค. 2556 เกิดอุบัติเหตุ 137 ครั้ง เปรียบเทียบกับปีใหม่ 2556 (129 ครั้ง) เพิ่มขึ้น 8 ครั้ง คิดเป็น 6.2% ผู้บาดเจ็บ 153 คน เปรียบเทียบกับปีใหม่ 2556 ( 132 คน) เพิ่มขึ้น 21 คน คิดเป็น 15.91% ผู้เสียชีวิต 25 คน เปรียบเทียบกับปีใหม่ 2556 (18 คน) เพิ่มขึ้น 7 คน คิดเป็น 38.89%
โดย จ.นครราชสีมาเกิดอุบัติเหตุ 65 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 81 คน ผู้เสียชีวิต 13 ราย มากที่สุดในประเทศไทย จ.บุรีรัมย์ เกิดอุบัติเหตุ 44 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 45 คน ผู้เสียชีวิต 7 ราย จ.สุรินทร์ เกิดอุบัติเหตุ 27 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 27 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย จ.ชัยภูมิ เกิดอุบัติเหตุ 27 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 1 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ เมาสุราแล้วขับขี่ 34.55% ขับรถเร็วเกินกำหนด 18.18% ตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด 15.76% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ รถจักรยานยนต์ 77.62% รถเก๋ง/รถแท็กซี่ 6.3%