เพชรบุรี - “ปิยะ อังกินันทน์” ย้ายค่ายจากพรรค “เพื่อไทย” เข้าพรรค “ชาติไทยพัฒนา” ลงสมัครเขตเลือกตั้งที่ 2 เพชรบุรี
วันนี้ (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายปิยะ อังกินันทน์ ได้เดินทางมายังจุดรับสมัคร ส.ส.เพชรบุรี ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี เพื่อลงสมัคร ส.ส.เขต 2 เพชรบุรี โดยมีนายยุทธพล อังกินันทน์ ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา เขต 1 เพชรบุรี นายยุทธ อังกินันทน์ นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี อดีต ส.ส.เพชรบุรี หลายสมัยเดินทางมาให้กำลังใจ
นายปิยะ อังกินันทน์ กล่าวหลังจากสมัครเสร็จว่า ได้ย้ายจากพรรคเพื่อไทย กลับมาอยู่บ้านเดิมคือ พรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคเดิม คือ พรรคชาติไทย และถือเป็นพรรคที่เป็นกลางในการเมืองตอนนี้ การลงสมัครครั้งนี้ถือเป็นการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประชาชน เมื่อมีการเลือกตั้งก็ต้องใช้สิทธิตามหน้าที่ในฐานะนักการเมืองการหาเสียงเน้นเข้าหาประชาชนเพื่อบอกกล่าวแนะนำตัว และนโยบายพรรคเป็นหลัก ส่วนการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ที่ประชาชนกังวลว่าจะมีขึ้นหรือไม่นั้น ตนก็ไม่สามารถตอบได้ล่วงหน้า แต่เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาแล้วทุกคนก็ต้องปฏิบัติตาม
ด้านนายยุทธ อังกินันทน์ อดีต ส.ส.หลายสมัย ในสังกัดพรรคชาติไทยในอดีต เผยสั้นๆ ว่า การเลือกตั้งจะมีหรือไม่มีนั้น ปัญหาอยู่ที่นายสุเทพ และพรรคพวก ส่วนผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาสมัครในเวลาไล่เลี่ยกันเช่นกัน ประกอบด้วย นายไกรศรี พจน์ศิลป์ สมัครเขตเลือกตั้งที่ 1 นายธนกฤษ ชะเอมน้อย หรือวันชนะ เกิดดี นักร้องลูกทุ่ง ลงสมัครเขตเลือกตั้งที่ 2 และนายนัฐพงศ์ หวังถนอม ลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 3
สำหรับนายไกรศรี พจน์ศิลป์ หรือ อ.ไกรศรี และนายธนกฤษ ชะเอมน้อย ถือเป็นแกนนำกลุ่ม นปช.คนสำคัญ โดยนายไกรศรี เป็นแกนนำในเขต อ.บ้านลาด ส่วนนายธนกฤษ หรือ วันชนะ เกิดดี แม้จะไม่ใช่แกนนำ นปช.ระดับจังหวัด แต่ก็เป็นแกนนำคนสำคัญคนหนึ่งในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม นปช. มาโดยตลอด ส่วนนายนัฐพงศ์ หวังถนอม แม้จะไม่ใช่แกนนำเสื้อแดง แต่ก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย
นายนัฐพงศ์ หวังถนอม เผยว่า สาเหตุที่ตนเลือกอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะนโยบายของพรรคทำเพื่อประชาชนในชนบทได้จริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่นโยบายขายฝัน การตัดสินใจลงเลือกตั้งครั้งนี้ก็เพื่อต้องการพัฒนาท้องถิ่นตามความตั้งใจของตัวเอง หลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเลือกตั้ง ซึ่งจะนำสิ่งที่ตนเองต้องการจะทำไปเสนอให้ประชาชนทราบ
ส่วนนโยบายพรรค คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ได้ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ก็จะมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย และก็ไม่หนักใจกับปัญหาบ้านเมืองที่ยังวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ ขอทำหน้าที่ในฐานะผู้สมัครที่อาสามาเป็นตัวแทนประชาชนให้ดีที่สุด
