กาญจนบุรี - ปล่อยแถวรณรงค์ 7 วันอันตราย ช่วงเทศกาลปีใหม่ ย้ำปีนี้ต้องตายไม่ถึง 5 คน ด้าน ผบก.สั่งเข้มกวาดล้างอาชญากรรม ป้องกันยาเสพติดทะลัก
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่หน้าศาลขุนแผน ถนนหน้าเมือง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานปล่อยแถวเดินรณรงค์ 7 วันอันตรายช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ โดยมี นายเอกภพ จันทร์เพ็ญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร ปลัดจังหวัด นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมือง พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมือง คณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เข้าร่วมรณรงค์
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายให้ลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ภาครัฐต่างร่วมกันรณรงค์อยู่เป็นประจำทุกปี แต่ไม่สามารถป้องกันเหตุได้ทั้งหมด ซึ่งประชาชน และนักท่องเที่ยวจะต้องช่วยกันระมัดระวังขณะขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งจะเป็นการลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญหากดื่มสุราจนมึนเมา หากจำเป็นต้องเดินทางก็ขอให้คนที่ไม่ดื่มสุราเป็นคนขับ และต้องไม่ขับด้วยความประมาท
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุปีที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุประมาณ 40 ครั้ง เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มสุรา และไม่สวมหมวกกันน็อก ในปีนี้จังหวัดได้กำหนดให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยอดผู้เสียชีวิตจะต้องน้อยกว่า 5 คน แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน และนักท่องเที่ยวด้วย
ส่วน พล.ต.ต.กมลสันติ กล่าวว่า สำหรับตำรวจนอกจากอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแล้ว ยังต้องคอยแนะนำเส้นทางให้นักท่องเที่ยว ควบคู่กันไปกับการตรวจค้นรถยนต์ หรือบุคคลต้องสงสัย เพราะกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีแนวชายแดนติดต่อกับประเทศพม่า อาจจะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นขบวนการค้ายาเสพติด ฉวยโอกาสขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่มีน้อยลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ
ที่ผ่านมา ตำรวจสามารถจับกุมขบวนการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขบวนการค้ายาเสพติดขณะนี้ไม่มีเพียงยาบ้าอย่างเดียว แต่เริ่มมีการนำยาไอซ์เข้ามาบ้างแล้ว ล่าสุด ได้ใช้เด็กชาวพม่าอายุเพียง 7 ปี ขนย้าย โดยที่เด็กไม่รู้ว่าสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋านั้นเป็นยาเสพติด แต่ไม่รอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ได้ จึงสั่งการให้ตำรวจ ร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง ตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ซึ่งการตรวจค้นบางครั้งอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวล่าช้าในการเดินทางไปบ้าง แต่ขอให้นักท่องเที่ยวเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย