xs
xsm
sm
md
lg

วัดดังอุตรดิตถ์หนี้บาน หลังเศรษฐกิจทรุด ศรัทธาหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระครูกิตติ ธรรมนุยุต หรือพระโอภาส นิรโศก เจ้าอาวาสวัดกลาง ที่ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสฯ เพื่อเดินทางไปเทศนาที่สวิสเซอร์แลนด์ หาปัจจัยมาใช้หนี้วัด
อุตรดิตถ์ - เศรษฐกิจทรุด-ศรัทธาหาย ทำวัดดังอุตรดิตถ์ติดหนี้ร่วม 4 ล้าน เจ้าอาวาสยอมลาออกจากตำแหน่งไปเทศนาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์หาเงินใช้หนี้ ฝ่ายบัญชีเผยอดีตเจ้าอาวาสยอมขายที่ดินตัวเองใช้หนี้แทนมาแล้ว

วันนี้ (26 ธ.ค.) พระสมุห์ชาติศักดิ์ ปริชาโน รักษาการเจ้าอาวาสวัดกลาง เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า พระครูกิตติ ธรรมนุยุต หรือพระโอภาส นิรโศก เจ้าอาวาสวัดกลาง ได้แจ้งลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดกลาง ต่อเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยก่อนลาออกได้เรียกพระเณรในวัดกลางมาบอกว่า ขอให้ช่วยกันรักษาดูแลศาสนสถานต่างๆ อาคารสถานที่ ต้นไม้ภายในวัดให้ดี เจ้าอาวาสจะเดินทางไปต่างประเทศ ศึกษาธรรมะและเผยแผ่ศาสนาพุทธที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นเวลา 3 ปี

แต่สาเหตุแท้จริงที่พระครูกิตติเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์นั้นเป็นเพราะต้องการไปทำศาสนกิจเผยแผ่ศาสนาเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ประมาณ 4 ล้านบาท เพราะวัดกลางมีหนี้สินที่เกิดจากการสร้างศาสนสถานหลายแห่ง ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดให้น่าทำบุญ ศึกษาธรรมะ จนเป็นวัดที่มีการพัฒนาอันดับต้นๆ ของ จ.อุตรดิตถ์

“หลวงพ่อท่านเป็นพระที่ไม่ค่อยพูด แต่เป็นพระที่เสียสละ ยอมขายที่ดินของตัวเองที่มีก่อนจะเข้ามาบวชเป็นพระเพื่อนำมาใช้หนี้ให้กับทางวัด พระลูกวัด ญาติโยมที่เคารพนับถือต่างรู้สึกเสียดาย ที่ท่านตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศ หลายคนขอบริจาคเงินไปรับท่านกลับมาเป็นเจ้าอาวาสเหมือนเดิม”

พระครูสุภัทร สันติคุณ เจ้าอาวาสวัดดอย หมู่ 6 ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า สนิทกับพระครูกิตติมากเพราะบวชมานานเหมือนกัน ก่อนเดินทางไปต่างประเทศได้มาหารือเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับหนี้สินของวัด พร้อมกับฝากวัดกลางให้ดูแลด้วยอีกทาง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นพระครูกิตติไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร และแจ้งเหตุผลของการลาออกจากเจ้าอาวาสว่าต้องการศึกษาต่อ และเผยแผ่ศาสนามากกว่าปัญหาอย่างอื่น แต่ด้วยเหตุจำเป็นจึงต้องหาทางออกด้วยการไปเทศนาต่างประเทศ เพราะน่าจะได้ปัจจัยมาก เพื่อนำมาใช้หนี้ให้กับทางวัด

ด้านนายประจวบ สุภักดี ฝ่ายบัญชีวัดกลาง กล่าวว่า ทำบัญชีให้กับวัดกลางมานานมาก พระครูกิตติเริ่มพัฒนาวัดมาตั้งแต่ปี 2538 ได้ใช้เงินเพื่อการพัฒนาวัดไปมากกว่า 40 ล้านบาท โดยเป็นเงินบริจาค เงินผ้าป่า เงินกฐิน และเงินสร้างพระราว 15 ล้านบาทเท่านั้น ที่เหลือเป็นเงินที่ได้จากการรับกิจนิมนต์ไปเทศน์ตามสถานที่ต่างๆ มีการก่อสร้างศาลาขนาดใหญ่มูลค่าราว 20 ล้านบาท อาคารพิพิธภัณฑ์ของเก่า ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม ไม่ใช่เป็นเพียงแค่วัด แต่อยากให้เป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนของนักเรียน สถานที่พักผ่อนของประชาชนทั่วไปอีกด้วย

ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจที่แย่ลง ส่งผลให้ญาติโยมบางคนที่แจ้งความศรัทธาว่าจะถวายเงินเพื่อการสร้างศาลาใหญ่ก็ไม่เอาเงินมามอบให้ แต่การก่อสร้างต้องดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางวัดมีหนี้สินสะสมที่เหลืออยู่ในปัจจุบันราว 4 ล้านบาท

“ทำบัญชีให้กับวัดมานานทราบดีว่าเจ้าอาวาสเป็นคนอย่างไร ท่านเป็นคนที่เสียสละ ยอมขายที่ดินส่วนตัว ขายพระเครื่องที่เก็บไว้ เงินประกันชีวิตก็ยังยกให้กับวัดเพื่อนำไปใช้หนี้แทน จึงเป็นไปไม่ได้ว่าเจ้าอาวาสจะนำเงินวัดหนีไปอยู่ต่างประเทศอย่างที่มีข่าวลือ อย่างไรก็ตามมีชาวบ้านจำนวนมากอยากให้ท่านกลับมาอยู่ที่วัดเหมือนเดิม ส่วนหนี้สินรับกิจนิมนต์ในพื้นที่ไม่กี่ปีก็คงหมด”

กำลังโหลดความคิดเห็น