แพร่ - กลุ่มประชาสังคมเมืองแพร่ ตั้งวงถกวิกฤตการเมือง ชี้ปัญหาใหญ่ภาคการเมืองตัดตอนภาค ปชช.ไม่ให้โต ปิดกั้นโอกาสการมีส่วนร่วม เล็งดึงทุกพรรค-ทุกสีหารือร่วมปราชญ์ชาวบ้าน ยันเลือกตั้ง 2 ก.พ.ไม่ทำให้วิกฤตคลี่คลาย
ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองของไทย ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองเห็นช่องทางแก้ปัญหา และโอกาสในการนำเสนอการทำงานภาคประชาชนที่มีอยู่ในจังหวัดต่างๆ โดยกลุ่มคณะทำงานภาคประชาสังคมในจังหวัดแพร่ ประกอบด้วย ปราชญ์ชาวบ้าน นักเคลื่อนไหว กลุ่มการเมือง และศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง จ.แพร่ ได้ประชุมหารือกันเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ข้อสรุปว่าที่ผ่านมา รัฐบาลทุกพรรคการเมืองไม่ทำให้ภาคประชาชนเติบโตตามแผนพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการกระจายอำนาจที่ไม่เป็นจริง ทำให้การพัฒนามีสภาพแบบคอขวด ไม่สามารถเดินต่อได้
ในขณะที่รัฐบาลใช้อำนาจบริหาร และจัดการงบประมาณตามความต้องการของตนเอง แม้ว่าประชาชนพยายามที่จะออกมามีบทบาท ร่างกฎหมายหลายฉบับเข้าสภาจนได้ออกบังคับใช้ แต่ก็ขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล ทำให้กฎหมายภาคประชาชนเกิดการบิดเบี้ยว
เช่น สภาเกษตรกร ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ร.บ.ป่าชุมชน ที่การเมืองทำให้กฎหมายตกไป พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนตำบล พ.ร.บ.สภาพัฒนาการเมือง รวมทั้งกฎหมายกระจายอำนาจที่มีมานานมากแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง
ที่ประชุมของกลุ่มประชาสังคมมองว่า การเกิดวิกฤตทางการเมืองในครั้งนี้เป็นผลพวงของการปิดกั้นการพัฒนาโดยนักการเมือง และกลายเป็นโอกาสที่ประชาชนจะออกมาแสดงตนเพื่อเดินหน้าพัฒนาต่อได้
โดยจังหวัดแพร่ จะนัดประชุมทุกกลุ่มการเมืองทุกพรรค และทุกสี เพื่อหาทางออกร่วมกัน นำไปสู่การปฏิรูปในแบบของจังหวัดแพร่ แล้วเสนอให้การเมืองใหญ่ยอมรับภายใต้กฎหมายที่มีอยู่
นายประสาท ประเทศรัตน์ ปราชญ์ชาวบ้าน อ.เมือง จ.แพร่ กล่าวว่า ประชาสังคมชาวแพร่ มีแนวคิดถึงการมีส่วนร่วมปฏิรูปประเทศไทยที่น่าจะเดินหน้าไปได้ คือ การสร้างพื้นที่ให้แก่คนทุกฝ่ายได้มาร่วมเสนอแนวทาง โดยยังไม่ต้องพูดถึงกฎหมายใด เมื่อทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันจนเข้าใจกันดีแล้ว จะร่วมกันสร้างวงการพูดคุยให้ใหญ่ขึ้น จนกลายเป็นกติการ่วมกัน
สำหรับการเลือกตั้งก่อนปฏิรูป หรือปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นประเด็นข้อเรียกร้องซึ่งประชาสังคมจังหวัดแพร่เห็นว่า ต้องเริ่มปฏิรูปจากคนไม่กี่คนก่อนเลย การเลือกตั้งจะเป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการ หรือจะยืดออกไปเป็นสาระของการเมืองระดับใหญ่ ส่วนจังหวัดแพร่ เริ่มประสานงานให้คนทุกฝ่ายมาคุยร่วมกันให้สามารถตั้งโครงการ หรือวางแผนพูดคุยเป็นระบบได้ก่อนปีใหม่ และจะเริ่มดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องไม่มีเวลาเป็นกรอบทำงาน
อย่างไรก็ตาม การจัดวงพูดคุยควรมองไปที่สภาองค์กรชุมชนตำบล และสภาพัฒนาการเมือง ที่มีการจัดตั้ง และดำเนินการมาแล้วถึง 6 ปี น่าจะเป็นกลไกการทำงานภาคประชาชนที่เดินหน้าไปได้โดยไม่ต้องออกกฎหมายใด
นายประสาท ยังกล่าวด้วยว่า แม้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ก็ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิทางการเมืองลดลงอย่างที่รัฐบาลคิด ส่วนการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปไม่ได้หมายถึงใครจะได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เป็นการเตรียมความพร้อมของภาคประชาชน และกติการ่วมกันที่ดีขึ้นต่างหาก
ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองของไทย ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองเห็นช่องทางแก้ปัญหา และโอกาสในการนำเสนอการทำงานภาคประชาชนที่มีอยู่ในจังหวัดต่างๆ โดยกลุ่มคณะทำงานภาคประชาสังคมในจังหวัดแพร่ ประกอบด้วย ปราชญ์ชาวบ้าน นักเคลื่อนไหว กลุ่มการเมือง และศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง จ.แพร่ ได้ประชุมหารือกันเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ข้อสรุปว่าที่ผ่านมา รัฐบาลทุกพรรคการเมืองไม่ทำให้ภาคประชาชนเติบโตตามแผนพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการกระจายอำนาจที่ไม่เป็นจริง ทำให้การพัฒนามีสภาพแบบคอขวด ไม่สามารถเดินต่อได้
ในขณะที่รัฐบาลใช้อำนาจบริหาร และจัดการงบประมาณตามความต้องการของตนเอง แม้ว่าประชาชนพยายามที่จะออกมามีบทบาท ร่างกฎหมายหลายฉบับเข้าสภาจนได้ออกบังคับใช้ แต่ก็ขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล ทำให้กฎหมายภาคประชาชนเกิดการบิดเบี้ยว
เช่น สภาเกษตรกร ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ร.บ.ป่าชุมชน ที่การเมืองทำให้กฎหมายตกไป พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนตำบล พ.ร.บ.สภาพัฒนาการเมือง รวมทั้งกฎหมายกระจายอำนาจที่มีมานานมากแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง
ที่ประชุมของกลุ่มประชาสังคมมองว่า การเกิดวิกฤตทางการเมืองในครั้งนี้เป็นผลพวงของการปิดกั้นการพัฒนาโดยนักการเมือง และกลายเป็นโอกาสที่ประชาชนจะออกมาแสดงตนเพื่อเดินหน้าพัฒนาต่อได้
โดยจังหวัดแพร่ จะนัดประชุมทุกกลุ่มการเมืองทุกพรรค และทุกสี เพื่อหาทางออกร่วมกัน นำไปสู่การปฏิรูปในแบบของจังหวัดแพร่ แล้วเสนอให้การเมืองใหญ่ยอมรับภายใต้กฎหมายที่มีอยู่
นายประสาท ประเทศรัตน์ ปราชญ์ชาวบ้าน อ.เมือง จ.แพร่ กล่าวว่า ประชาสังคมชาวแพร่ มีแนวคิดถึงการมีส่วนร่วมปฏิรูปประเทศไทยที่น่าจะเดินหน้าไปได้ คือ การสร้างพื้นที่ให้แก่คนทุกฝ่ายได้มาร่วมเสนอแนวทาง โดยยังไม่ต้องพูดถึงกฎหมายใด เมื่อทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันจนเข้าใจกันดีแล้ว จะร่วมกันสร้างวงการพูดคุยให้ใหญ่ขึ้น จนกลายเป็นกติการ่วมกัน
สำหรับการเลือกตั้งก่อนปฏิรูป หรือปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นประเด็นข้อเรียกร้องซึ่งประชาสังคมจังหวัดแพร่เห็นว่า ต้องเริ่มปฏิรูปจากคนไม่กี่คนก่อนเลย การเลือกตั้งจะเป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการ หรือจะยืดออกไปเป็นสาระของการเมืองระดับใหญ่ ส่วนจังหวัดแพร่ เริ่มประสานงานให้คนทุกฝ่ายมาคุยร่วมกันให้สามารถตั้งโครงการ หรือวางแผนพูดคุยเป็นระบบได้ก่อนปีใหม่ และจะเริ่มดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องไม่มีเวลาเป็นกรอบทำงาน
อย่างไรก็ตาม การจัดวงพูดคุยควรมองไปที่สภาองค์กรชุมชนตำบล และสภาพัฒนาการเมือง ที่มีการจัดตั้ง และดำเนินการมาแล้วถึง 6 ปี น่าจะเป็นกลไกการทำงานภาคประชาชนที่เดินหน้าไปได้โดยไม่ต้องออกกฎหมายใด
นายประสาท ยังกล่าวด้วยว่า แม้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ก็ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิทางการเมืองลดลงอย่างที่รัฐบาลคิด ส่วนการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปไม่ได้หมายถึงใครจะได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เป็นการเตรียมความพร้อมของภาคประชาชน และกติการ่วมกันที่ดีขึ้นต่างหาก