กาญจนบุรี - รถยนต์ตู้รับ-ส่งนักเรียนเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางบนถนนสาย 3342 อู่ทอง-บ่อพลอย เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 วัย 8 ขวบดับ 1 ราย เจ็บเพียบ
เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (20 ธ.ค.) ร.ต.ท.สุนทร บุญมั่น พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตู้รับส่งนักเรียนเสียหลักพุ่งลงข้างทางชนกับต้นไม้ มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดบนถนนสาย 3342 อู่ทอง-บ่อพลอย หมู่ 11 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ห้วยกระเจา
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นก 4707 กาญจนบุรี ตกลงไปข้างทางสภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีเด็กนักเรียนชาย-หญิง 15 คน ติดอยู่ภายในร้องโอดโอยขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธเดินทางไปถึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นจึงรีบรำเรียงเด็กๆ ไปส่งโรงพยาบาลอู่ทอง เป็นการเร่งด่วน
ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก ถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่กับพวงมาลัย เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำร่างออกมา จากนั้นจึงรีบนำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลห้วยกระเจา และได้ส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ทราบชื่อต่อมา คือ นายดำรงศักดิ์ ยงค์พิศาลภพ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 724 หมู่ 6 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
นอกจากนี้ ยังมีเด็กชายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุติดอยู่ภายในรถยนต์ตู้ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.ธนดล ลิ้มพิพัฒน์อังกูล อายุ 8 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 6 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนรัตนศึกษา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยหลังจากพ่อและแม่ของเด็กทราบข่าวได้รีบมาดูที่เกิดเหตุ เมื่อพบศพของลูกชายได้ร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกจนแทบเป็นลม สร้างความสลดใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ร.ต.ท.สุนทร บุญมั่น พนักงานสอบสวน กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่า คนขับได้ไปรับเด็กนักเรียนในพื้นที่อำเภออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มีทั้งชาย และหญิงรวมทั้งหมด 16 คน เพื่อมาส่งตามบ้านของเด็กๆ ที่อยู่ในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจา แต่ยังไม่สามารถสอบสวนหาสาเหตุได้ ซึ่งจะต้องรอสอบปากคำเด็กๆ หรือผู้ที่เห็นเหตุการณ์เสียก่อน และจะต้องรอให้แพทย์อนุญาตให้สอบปากคำคนขับรถยนต์ตู้ คือ นายดำรงศักดิ์ ที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพหลฯ และหากอาการไม่สาหัสแพทย์คงจะอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ จากนั้นจะนำตัวมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุอีกครั้งหนึ่ง และจะได้นำตัวคนขับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป