xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบข้าวโพดแม่แจ่มร้องรัฐขยายเวลา-โควตารับซื้อ หลังผลผลิตเกินและใกล้หมด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม นำโดยนายอุทัย บุญเทียม (ซ้ายสุด) เข้าหารือกับทางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้มีการเพิ่มโควตาการรับซื้อ และขยายเวลารับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกร
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ม็อบข้าวโพดแม่แจ่มส่งตัวแทนหารือผู้ว่าฯ-พาณิชย์จังหวัด ขอขยายเวลารับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-เพิ่มโควตารับซื้อ หลังโครงการหมดอายุสิ้นปีแต่ถึงตอนนี้เพิ่งซื้อผลผลิตจากเกษตรกรได้ไม่ถึงครึ่ง หนำซ้ำปริมาณข้าวโพดเกินโควตาแล้วแถมราคาตลาดตกต่ำสุดขีด ชี้หากไม่เพิ่มเวลา-เพิ่มโควตาคนปลูกข้าวโพดอาการหนักแน่

ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ (6 ธ.ค. 2556) เพื่อเสนอขอขยายระยะเวลามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2556/2557 ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตร ระดับจังหวัด

ตัวแทนกลุ่มดังกล่าวซึ่งนำโดยนายอุทัย บุญเทียม ประธานเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม ได้เข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ และตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยื่นข้อเรียกร้องของทางกลุ่มรวม 3 ข้อ ซึ่งประกอบด้วย 1. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับซื้อผลผลิตข้าวโพดของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรทั้งหมดโดยไม่จำกัดจำนวน 2. ขยายระยะเวลาการรับซื้อ จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน ธ.ค. เป็นสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2557 เพื่อให้สามารถซื้อผลผลิตข้าวโพดจากเกษตรกรได้ทั้งหมด และให้เกษตรกรที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ได้สิทธิตามมาตรการดังกล่าว และ 3. ขอให้รับซื้อผลผลิตในราคา 7 บาทที่ความชื้น 30% และราคา 9 บาทที่ความชื้น 14.5%

กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดระบุว่า แม้รัฐบาลจะมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ก.ย. และ 1 ต.ค. 2556 ในการแก้ไขปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ด้วยการแทรกแซงรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรรวม 1.875 ล้านตันเมล็ด จากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 7 บาท ที่ความชื้น 30% โดยรับซื้อจากเกษตรกรที่มีสิทธิในการเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวทั้งหมด ทั้งเกษตรกรในส่วนที่มีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค. พร้อมทั้งชดเชยค่าขนส่งให้แก่ผู้รวบรวมและสหกรณ์ผู้รวบรวมในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือนั้น แต่ปรากฏว่าผู้รวบรวมหรือสหกรณ์ผู้รวบรวมสามารถเปิดหน่วยรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้จริงตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 2556 ทำให้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเกรงว่าเวลาที่เสียไปกว่า 1 เดือนอาจทำให้เกษตรกรสูญเสียผลประโยชน์ที่ควรได้รับไป

ขณะเดียวกัน จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.พบว่าจุดรับซื้อของผู้รวบรวมจำนวน 21 รายในอำเภอแม่แจ่มรับซื้อข้าวโพดแล้วกว่า 35,000 ตันเศษ ทั้งที่จำนวนโควตาการรับซื้อที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับอยู่ที่ 28,328 ตัน อีกทั้งการรับซื้อดังกล่าวยังรับซื้อจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเพียง 2,299 ราย จากจำนวนเกษตรกรที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการตามมาตรการดังกล่าวจำนวน 8,272 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโควตาดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะรองรับปริมาณผลผลิตของเกษตรกร นอกจากนี้สถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้ราคาข้าวโพดในท้องตลาดปัจจุบันตกต่ำอย่างรุนแรง และทำให้ผู้รวบรวมรับซื้อผลผลิตในราคาที่ตำกว่าที่รัฐบาลกำหนดอีกด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรระบุว่าปัจจุบันราคาที่มีการรับซื้อกันในท้องตลาดอยู่ที่ 3.30 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ทำให้เกษตรกรจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังมีผลผลิตของเกษตรกรอีกเป็นจำนวนมากที่อยู่ในระหว่างการเก็บเกี่ยวหรือรอการเก็บเกี่ยว ซึ่งหากใช้ระยะเวลาดำเนินการและโควตาเดิมจะทำให้เกษตรกรจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องยื่นข้อเรียกร้องต่อภาครัฐเพื่อขอให้มีการเพิ่มโควตาการรับซื้อและขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น