สระบุรี - องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย จับมือร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และ สสส. จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 5 ธันวาคมมหาราช จัดกิจกรรมตักบาตรนมสด-ธรรมในฟาร์ม ปีที่ 2 หวังสานต่อให้เป็นประเพณีแห่งเมืองโคนม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช ตักบาตรนมสด สานต่อกิจกรรมบุญ และหวังสร้างให้เป็นประเพณีของจังหวัดสระบุรี พร้อมรณรงค์ และเชิญชวนให้พนักงาน และประชาชนทั่วไปหันมาดื่มนม ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยการลด เลิก ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในการจัดกิจกรรมภายในงานมีการตักบาตรนมสด และข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 87 รูป และมีการสวดพระพุทธมนต์ และบรรยายในหัวข้อ โตด้วยน้ำนม อย่าเสียคนด้วยน้ำเมา โดย พระมหาอุทัย พลเทโว หัวหน้าฝ่ายมหาจุฬาอาศรม จากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดยมีประชาชนมาร่วมงานกว่า 500 คน ณ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) กล่าวว่า กิจกรรมตักบาตรนมสด ถือว่าเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นแห่งเดียวในประเทศ โดยทาง อสค. ได้พยายามสร้างให้เป็นประเพณีของจังหวัดสระบุรี เนื่องจากเป็นแหล่งกำเนิดการเลี้ยงโคนม
นอกจากนี้ ยังเป็นการรณรงค์ให้พนักงานของ อสค. และประชาชนใกล้เคียงได้มาเห็นความสำคัญของการลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หันมาดื่มนม หรือเครื่องดื่มที่มีคุณค่าต่อร่างกาย รวมถึงได้กันทำบุญใส่บาตร และฟังธรรมเพื่อพัฒนาจิตใจ โดยได้ประโยชน์จากพื้นที่ในฟาร์มในการจัดกิจกรรมสร้างประโยชน์ดังกล่าวเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนทางด้าน เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหลา (สคล.) กล่าวว่า ทางเครือข่ายได้มีการรณรงค์ให้ประชาชน ลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังพบว่าผลกระทบของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องในสังคมด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ยังคงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน บุคคลในครอบครัว ตลอดจนองค์กร หรือหน่วยงาน ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ที่ทางเครือข่ายได้ร่วมกับ อสค. จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้เกิดรณรงค์ไปยังพนักงาน และประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนซึ่งเป็นลูกหลานที่ปัจจุบันต้องตกเป็นทาสน้ำเมา และเกิดนักดื่มหน้าใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจากข้อมูลสถิติคนไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปีละ 2,699 ล้านลิตร (สองพันหกร้อยเก้าสิบเก้าล้านลิตร) โดยเฉลี่ยคนละประมาณ 53 ลิตร แต่ดื่มนมเพียง 14.19 ลิตรต่อคนต่อปีเท่านั้น หากเราลองเปลี่ยนพฤติกรรมจากการดื่มเหล้าที่เป็นน้ำที่ทำลายสุขภาพ มาเป็นการดื่มน้ำที่สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอย่างเช่นน้ำนม ดังคำว่า โตมาด้วยน้ำนม อย่าเสียคนด้วยน้ำเมา
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช ตักบาตรนมสด สานต่อกิจกรรมบุญ และหวังสร้างให้เป็นประเพณีของจังหวัดสระบุรี พร้อมรณรงค์ และเชิญชวนให้พนักงาน และประชาชนทั่วไปหันมาดื่มนม ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยการลด เลิก ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในการจัดกิจกรรมภายในงานมีการตักบาตรนมสด และข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 87 รูป และมีการสวดพระพุทธมนต์ และบรรยายในหัวข้อ โตด้วยน้ำนม อย่าเสียคนด้วยน้ำเมา โดย พระมหาอุทัย พลเทโว หัวหน้าฝ่ายมหาจุฬาอาศรม จากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดยมีประชาชนมาร่วมงานกว่า 500 คน ณ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) กล่าวว่า กิจกรรมตักบาตรนมสด ถือว่าเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นแห่งเดียวในประเทศ โดยทาง อสค. ได้พยายามสร้างให้เป็นประเพณีของจังหวัดสระบุรี เนื่องจากเป็นแหล่งกำเนิดการเลี้ยงโคนม
นอกจากนี้ ยังเป็นการรณรงค์ให้พนักงานของ อสค. และประชาชนใกล้เคียงได้มาเห็นความสำคัญของการลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หันมาดื่มนม หรือเครื่องดื่มที่มีคุณค่าต่อร่างกาย รวมถึงได้กันทำบุญใส่บาตร และฟังธรรมเพื่อพัฒนาจิตใจ โดยได้ประโยชน์จากพื้นที่ในฟาร์มในการจัดกิจกรรมสร้างประโยชน์ดังกล่าวเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนทางด้าน เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหลา (สคล.) กล่าวว่า ทางเครือข่ายได้มีการรณรงค์ให้ประชาชน ลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังพบว่าผลกระทบของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องในสังคมด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ยังคงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน บุคคลในครอบครัว ตลอดจนองค์กร หรือหน่วยงาน ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ที่ทางเครือข่ายได้ร่วมกับ อสค. จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้เกิดรณรงค์ไปยังพนักงาน และประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนซึ่งเป็นลูกหลานที่ปัจจุบันต้องตกเป็นทาสน้ำเมา และเกิดนักดื่มหน้าใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจากข้อมูลสถิติคนไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปีละ 2,699 ล้านลิตร (สองพันหกร้อยเก้าสิบเก้าล้านลิตร) โดยเฉลี่ยคนละประมาณ 53 ลิตร แต่ดื่มนมเพียง 14.19 ลิตรต่อคนต่อปีเท่านั้น หากเราลองเปลี่ยนพฤติกรรมจากการดื่มเหล้าที่เป็นน้ำที่ทำลายสุขภาพ มาเป็นการดื่มน้ำที่สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอย่างเช่นน้ำนม ดังคำว่า โตมาด้วยน้ำนม อย่าเสียคนด้วยน้ำเมา
