ฉะเชิงเทรา - ม็อบเรียกร้องสวัสดิภาพแรงงานบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือช่าง บุกเสียบแทนม็อบการเมืองในศาลากลางแปดริ้ว หลังลูกจ้างถูกปลดออกขณะเข้ายื่นข้อเรียกร้องปลายปี ด้านสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ยื่นมือตั้งโต๊ะเจรจาเครียด แต่สุดท้ายยังคว้าน้ำเหลว
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มผู้ใช้แรงงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิก และตัวแทนสหภาพแรงงานสแตนเลย์ประเทศไทย 44 คน เรียกร้องให้ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ช่วยเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยกรณีข้อพิพาทแรงงานที่เกิดขึ้นระหว่างฝ่ายสหภาพแรงงานซึ่งเป็นลูกจ้าง และทางฝ่ายของนายจ้าง คือ บริษัท สแตนเลย์ เวิร์คส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ผู้ผลิตเครื่องมือช่างก่อสร้าง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ซอย 12 เลขที่ 92 หมู่ 9 ถนนบางนา-ตราด ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
หลังจากการเจรจาเกี่ยวกับข้อเรียกร้องสภาพการจ้างปลายปี ที่ได้มีการยื่นระหว่างกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาไม่เป็นที่ตกลงกัน และทางฝ่ายของบริษัทได้ทำการยุติการจ้างแก่ตัวแทนของพนักงานทั้ง 44 คน ซึ่งเป็นสมาชิก และกรรมการ รวมถึงประธานสหภาพ จนทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อพนักงานในด้านการประกอบอาชีพมาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว
โดยมีนายจรัส ครชาตรี นิติกรชำนาญการ ประจำสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด มาพบกับกลุ่มตัวแทนสหภาพ พร้อมเชิญพนักงานทั้งหมดเข้าไปพักผ่อนรอการส่งตัวแทนการเจรจายังภายในห้องประชุมศาลาประชาคม ก่อนที่ตัวแทนฝ่ายพนักงานรวม 7 คน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ 3 คน และฝ่ายของนายจ้าง 3 คนเจรจากัน
โดยการเจรจาได้ใช้เวลานานหลายชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 16.30 น. ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถที่จะหาข้อยุติร่วมกันได้ ทำให้ฝ่ายของเจ้าหน้าที่ต้องทำการนัดหมายให้มีการเจรจาร่วมกันรอบใหม่อีกครั้ง วันที่ 12 ธันวาคม เวลา 10.00 น. เพื่อหาข้อยุติต่อไป จากนั้นกลุ่มพนักงานจึพากันเดินทางกลับเมื่อเวลา 17.00 น.
นางพิชชาภา นันทา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/171 หมู่ 2 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานที่ถูกยุติการจ้าง ทั้งที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ กล่าวว่า เป็นพนักงานของบริษัทมานานกว่า 15 ปีแล้ว และเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานมากว่า 10 ปี ที่ผ่านมา การเจรจายื่นข้อเรียกร้องจะมีขึ้นเป็นประจำทุกปี และสามารถที่จะเจรจาตกลงกันได้ด้วยดี แต่มาในปีนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเข้ามาใหม่ ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันเอง กลับไม่ยินยอมรับข้อเรียกร้องจากทางฝ่ายของสหภาพทั้งหมด 15 ข้อ
อีกทั้งยังได้ทำการปรับลดสวัสดิการอีกหลายด้านที่อยู่นอกเหนือข้อกฎหมายกำหนดลงไปจากข้อเรียกร้องเดิมอีกด้วย ทั้งที่บริษัทยังคงมีผลกำไรอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งสหภาพเองก็ไม่ได้เรียกร้องในสิ่งที่เกินเลยไปกว่าที่จะเป็นไปได้ โดยการเจรจาระหว่างกันนั้นมีเกิดขึ้นมากถึงกว่า 6 ครั้งแล้วตั้งแต่มีการยื่นข้อเรียกร้อง โดยที่ทางฝ่ายตัวแทนของบริษัท ได้เร่งรีบยื่นเรื่องให้เป็นข้อพิพาทแรงงานตั้งแต่การเจรจาในครั้งที่ 3 และประกาศด้วยว่าจะไม่ยินยอมรับตัวแทนพนักงานที่ออกมาเคลื่อนไหวทั้ง 44 คน กลับเข้าไปทำงานอีกต่อไปด้วย