ประจวบคีรีขันธ์ - เทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ อำเภอบางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมหนัก ภายหลังถนนทางเข้าตลาดบางสะพาน รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านได้ รวมทั้งถนนสายบางสะพาน-บ้านหนองหัดไท-บางสะพานน้อย น้ำไหลท่วมผิวการจราจรเป็นระทางกว่า 1 กิโลเมตร ส่วนย่านการค้าในตลาดบางสะพาน ต้องปิดกิจการหลังน้ำไหลเข้าท่วม ขณะที่ทีมกู้ภัยสูญหาย 1 ราย ขณะช่วยเหลือชาวบ้านที่ที่ถูกน้ำป่าซัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (24 พ.ย.) น้ำป่าที่ไหลจากทางด้านทิศตะวันตกของ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังเกิดฝนตกหนักตลอด 2 วันที่ผ่านมา ทำให้วันนี้น้ำป่าที่ไหลลงคลองบางสะพาน ได้ไหลทะลักเข้าท่วมเขตพื้นที่ชั้นในของเทศบาลกำเนิดนพคุณ ตั้งแต่ถนนเพชรเกษม ทางเข้าตลาดบางสะพาน ระดับน้ำท่วมผิวการจราจร ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถแล่นผ่านได้ เป็นระยะทางยาวประมาณกว่า 1 กิโลเมตร อีกทั้งบริเวณวัดห้วยทรายขาว วัดเขาโบสถ์ มีน้ำท่วมภายในวัดตั้งแต่ 1 เมตรขึ้นไป นอกจากนั้น น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมย่านธุรกิจการค้าในซอยรัตน์โกสินทร์ จึงทำให้ร้านค้าต่างๆ ต้องปิดกิจการ และเฝ้าดูระดับน้ำที่อาจจะสูงขึ้นในช่วงคืนนี้
ในขณะเดียวกัน ทางเทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ ยังได้สั่งปิดโรงเรียนอนุบาลบางสะพานต่อเนื่อง เนื่องจากมีน้ำท่วมในโรงเรียนสูง 0.5-1 เมตร และบริเวณถนนสายบางสะพาน-บ้านหนองหัดไท-บางสะพานน้อย น้ำได้ไหลท่วมผิวการจราจร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านได้เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร
ทั้งนี้ นายเกิดพงษ์ ทวีศักดิ์สมบูรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลกำเนิดนพคุณ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิคอยช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม รวมไปถึงคอยดูแลเรื่องการจราจรเส้นทางที่จะเข้าไปยังตลาดบางสะพาน
โดยครั้งนี้ นายกเทศมนตรีตำบลกำเนิดนพคุณ และชาวบ้านกล่าวว่า ครั้งนี้น้ำท่วมหนักกว่าเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากในพื้นที่ฝั่งทิศตะวันตกมีความชุ่มน้ำแล้ว จึงทำให้น้ำป่าไหลลงมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ส่วสนใหญ่ชาวบ้านในพื้นที่ได้ขนข้ามของไว้ที่สูง เนื่องจากทางเทศบาลมีการประกาศหอกระจายข่าวให้ได้รับทราบ
เบื้องต้น นายกเทศมนตรีตำบลกำเนิดนพคุณ บอกว่า มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 300 ครัวเรือน ส่วนความเสียหายในด้านต่างๆ นั้นยังไม่สามารถระบุได้ ซึ่งคงต้องรอหลังน้ำลด อย่างไรก็ตาม หากในคืนนี้ไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้เช้าระดับน้ำที่ท่วมขังตามจุดต่างๆ น่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสอบน้ำในคลองบางสะพานตลอด 24 ชม.
อีกทั้งยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน ได้รับแจ้งเหตุว่า มีรถยนต์กระบะแวน ยี่ห้ออีซูซุ สีแดง ทะเบียน ภอ 2458 กรุงเทพมหานคร ประสบอุบัติเหตุรถจมน้ำ หลังจากคนขับรถพยายามขับรถฝ่ากระแสน้ำป่าที่กำลังไหลเชี่ยวกรากที่ฝายน้ำล้นบ้านบึง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นแนวยาว แต่รถไม่สามารถฝ่ากระแสน้ำป่าได้ ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมตัวรถ และมีคนขับรถติดค้างอยู่ภายในรถ จำนวน 1 ราย จนในเวลาต่อมา มีการประสานขอให้นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.อาคเนย์ แดงต้อมยุทธ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ทราบ พร้อมทั้งประสานให้ทีมชุดประดาน้ำ เดินทางไปช่วยให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
ทันทีที่เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึงที่เกิดเหตุ ได้พยายามช่วยชีวิตผู้ที่ติดค้างอยู่ ด้วยการใช้รถบรรทุกสิบล้อ มาจอดรอเป็นหลักสำหรับผูกติดกับโซ่ขนาดใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย จำนวน 4 คน ทยอยกันเดินต่อกันเพื่อเข้าไปใช้โซ่เหล็กขนาดใหญ่ผูกกับตัวถังรถยนต์กระบะ ดังกล่าว จนสามารถช่วยคนขับรถออกมาได้สำเร็จ
แต่ในช่วงนั้นเองน้ำป่าได้ทะลักมาอีกระลอก ความรุนแรงของกระแสน้ำแรงได้ซัดรถยนต์กระบะ สีแดง และทีมกู้ภัยทั้ง 4 คน ตกลงไปในน้ำ ทุกคนพยายามตะเกียดตะกายจนสามารถยึดต้นไม้ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเอาไว้ได้ และขึ้นจากน้ำมาได้ จำนวน 3 คน แต่นายเชาวลิต ภูมิวัฒนานนท์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย นามเรียกขาน สว่าง 312 ในชุดกู้ภัยสีน้ำเงิน ถูกน้ำป่าซัดจมหายไปต่อหน้าเพื่อน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พยายามออกค้นหาตามต้นไม้ และจุดต่างๆ ที่น้ำป่าพัดผ่าน แต่เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงก็ยังไร้วี่แววของ นายเชาวลิต ซึ่งทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย และชาวบ้านที่มาดูการค้นหาผู้สูญหายทุกคนต่างหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ พบ นายเชาวลิต ติดค้างอยู่ตามต้นไม้บริเวณใดบริเวณหนึ่ง และรอดชีวิต
นายอัคคลา เพ็งสกุล ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.อ่าวน้อย ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ กระทั่งเกิดเหตุสลดใจขึ้น โดยเชื่อว่าทีมกู้ภัยพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่น้ำป่าแรงมากจนเกิดเรื่องขึ้น ยอมรับรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้