บุรีรัมย์ - นปพ.บุรีรัมย์ผสานกำลัง ตร.ละหานทราย และป่าไม้ บุกจับขบวนการค้าไม้พะยูงกลางป่าอ้อย ขณะลำเลียงขึ้นรถเพื่อส่งจำหน่ายเขมร ได้ผู้ต้องหา 6 ราย ของกลางไม้พะยูง 18 ท่อนเหลี่ยม คาดมูลค่าร่วม 10 ล้านบาท ขณะตำรวจเร่งขยายผลรวบนายทุนและผู้ร่วมขบวนการ
วันนี้ (18 พ.ย.) พ.ต.ท.อนันต์ ทองบันเทิง สารวัตรหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูงหวงห้ามส่งให้นายทุน เพื่อส่งออกจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้นำกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ผสานกำลังตำรวจ สภ.ละหานทราย และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าทำการตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
พบนายโนรี แสงแดง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.8 ต.บ้านสาด อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา พร้อมพวกอีก 5 คน ประกอบด้วย นายชุมพล อำพันทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.8 ต.บ้านสาด อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา, นายธีระพงษ์ วิเศษธร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.1 ต.นางรำ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา, นายสัมฤทธิ์ แปลกรัมย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.15 บ.หัววัว ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์, นายไพรัตน์ เฉือยพุก อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.5 ต.บ้านสาด อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา และนายธวัชชัย ประจงจิตร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.8 ต.บ้านสาด อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา
กำลังช่วยกันขนย้ายไม้พะยูงที่แปรรูปแล้ว ความยาวประมาณ 4 เมตร กว้าง 40x6 นิ้ว ซึ่งซุกซ่อนไว้ในป่าอ้อยบริเวณบ้านสันติสุข ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย ขึ้นบนรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ฮีโน่ และรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้อโตโยต้า ไดน่า รวมจำนวน 18 ท่อนเหลี่ยม อีกทั้งได้มีการดัดแปลงตัดแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ปิดกระบะท้ายรถอย่างมิดชิด และติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมทั้ง 2 คัน โดยอีกคันติดทะเบียนไว้ด้านหน้า อีกคันติดไว้ด้านหลัง แต่เป็นหมายเลขเดียวกัน เพื่อตบตาหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
จากการสอบสวนนายโนรี แสงแดง ได้ให้การว่า เป็นคนรับออเดอร์มาจากนายทุนให้มาทำการลำเลียงไม้พะยูงดังกล่าวที่ซุกซ่อนหรือพักไว้ในป่าอ้อย จึงได้ไปจ้างชาวบ้านมาช่วยขนโดยให้ค่าจ้างคนละ 500 บาท แต่อ้างว่าไม่รู้ว่าไม้ดังกล่าวถูกตัดมาจากเขตพื้นที่ใด แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อและคาดว่าไม้ดังกล่าวน่าจะถูกตัดมาจากเขตป่าดงใหญ่ในพื้นที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อสาวหานายทุนและกลุ่มผู้ร่วมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวคาดว่าจะลำเลียงส่งขายประเทศกัมพูชา ซึ่งหากส่งออกได้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งให้ ร.ต.อ.มานพ ทองพลับพลา ร้อยเวร สพ.ละหานทราย ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี โดยเบื้องต้นได้ถูกแจ้งข้อหา “มีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”
วันนี้ (18 พ.ย.) พ.ต.ท.อนันต์ ทองบันเทิง สารวัตรหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูงหวงห้ามส่งให้นายทุน เพื่อส่งออกจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้นำกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ผสานกำลังตำรวจ สภ.ละหานทราย และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าทำการตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
พบนายโนรี แสงแดง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.8 ต.บ้านสาด อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา พร้อมพวกอีก 5 คน ประกอบด้วย นายชุมพล อำพันทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.8 ต.บ้านสาด อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา, นายธีระพงษ์ วิเศษธร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.1 ต.นางรำ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา, นายสัมฤทธิ์ แปลกรัมย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.15 บ.หัววัว ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์, นายไพรัตน์ เฉือยพุก อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.5 ต.บ้านสาด อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา และนายธวัชชัย ประจงจิตร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.8 ต.บ้านสาด อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา
กำลังช่วยกันขนย้ายไม้พะยูงที่แปรรูปแล้ว ความยาวประมาณ 4 เมตร กว้าง 40x6 นิ้ว ซึ่งซุกซ่อนไว้ในป่าอ้อยบริเวณบ้านสันติสุข ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย ขึ้นบนรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ฮีโน่ และรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้อโตโยต้า ไดน่า รวมจำนวน 18 ท่อนเหลี่ยม อีกทั้งได้มีการดัดแปลงตัดแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ปิดกระบะท้ายรถอย่างมิดชิด และติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมทั้ง 2 คัน โดยอีกคันติดทะเบียนไว้ด้านหน้า อีกคันติดไว้ด้านหลัง แต่เป็นหมายเลขเดียวกัน เพื่อตบตาหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
จากการสอบสวนนายโนรี แสงแดง ได้ให้การว่า เป็นคนรับออเดอร์มาจากนายทุนให้มาทำการลำเลียงไม้พะยูงดังกล่าวที่ซุกซ่อนหรือพักไว้ในป่าอ้อย จึงได้ไปจ้างชาวบ้านมาช่วยขนโดยให้ค่าจ้างคนละ 500 บาท แต่อ้างว่าไม่รู้ว่าไม้ดังกล่าวถูกตัดมาจากเขตพื้นที่ใด แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อและคาดว่าไม้ดังกล่าวน่าจะถูกตัดมาจากเขตป่าดงใหญ่ในพื้นที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อสาวหานายทุนและกลุ่มผู้ร่วมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวคาดว่าจะลำเลียงส่งขายประเทศกัมพูชา ซึ่งหากส่งออกได้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งให้ ร.ต.อ.มานพ ทองพลับพลา ร้อยเวร สพ.ละหานทราย ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี โดยเบื้องต้นได้ถูกแจ้งข้อหา “มีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”