ตร.กรุงเก่า ถกธนาคารป้องกันเทคโนโลยีโจรกรรมเงินตู้เอทีเอ็ม

พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจกรุงเก่า จับมือธนาคารหารือมาตรการป้องกันเหตุ คนร้ายใช้เทคโนโลยีโจรกรรมทรัพย์เงินในตู้เอทีเอ็ม

วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รองผบก.ภ.จว. ประชุมร่วมกับผู้บริหารธนาคาร 129 สาขา เพื่อหารือมาตราการป้องกันเหตุคนร้ายใช้เทคโนโลยีโจรกรรมทรัพย์จากตู้เอทีเอ็ม และเหตุประทุษร้ายเกี่ยวกับธนาคาร โดยมีหัวหน้าสถานทีตำรวจ 26 สถานี ผู้จัดการธนาคารเข้าร่วมกว่า 150 คน

โดยจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พบว่า หลายธนาคารอยากให้ตำรวจสายตรวจช่วยการตรวจตู้เอทีเอ็มที่อยู่ในพื้นที่สายตรวจ และบางส่วนกล่าวถึงการใช้บริการของประชาชน ควรใช้ตู้ที่หน้าสาขาเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจตราอย่างเข้มงวด

ด้าน พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า จากเหตุคนร้ายใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ติดตั้งที่ตู้เอทีเอ็มเวลาที่ประชาชนกดเงินที่ตู้แล้วมีการโจรกรรมข้อมูลบัตรไปกดเงินตามที่เป็นข่าว นับเป็นภัยที่ใกล้ตัวมาก จึงได้เรียกผู้ประกอบการธนาคารมาหามาตรการป้องกัน เพราะปัจจุบันพบว่าตู้เอทีเอ็มมากขึ้น ทั้งธนาคาร หรือห้างสรรพสินค้า ล้วนเป็นจุดเสี่ยงที่จะให้คนร้ายก่อเหตุได้ง่ายขึ้น การที่จะให้ตำรวจตรวจดูความผิดปกติ เช่น การขยับแป้นพิมพ์ที่ตู้นั้น ทำด้วยความลำบากมาก จึงอยากให้ทางธนาคารหามาตรการแบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

โดยเสนอให้ผู้จัดการสาขา ผู้จัดการเขต หรือหัวหน้าสถานี เซ็นชื่อกำกับที่บริเวณแป้นพิมพ์ของตู้เอทีเอ็ม หากประชาชนพบว่าแป้นพิมพ์ไม่มีลายเซ็นกำกับ หรือเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่ลายเซ็นที่ถูกต้องก็จะง่ายต่อการตรวจสอบ จึงขอให้ธนาคารนำแนวคิดนี้ไปเสนอผู้บริหารระดับสูงในธนาคารของตนเองว่าสามารถปฏิบัติได้หรือไม่

และที่สามารถทำได้เร่งด่วนขณะนี้ คือ จะเปิดไลน์กลุ่มเพื่อทำการรายงานการตรวจตู้เอทีเอ็ม โดยขอให้ทางธนาคารร่วมตรวจความผิดปกติด้วย เพื่อป้องกันการสูญเสียทั้งต่อประชาชนที่ใช้บริการและธนาคารเองด้วย