นครสวรรค์ - ชาวปากน้ำโพยืนหยัดร่วมเวทีไม่เอานิรโทษคนโกงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้บางส่วนตบเท้าเข้ากรุงไปแล้ว ขณะที่ สรส.นครสวรรค์เตรียมรับไม้ปักหลักจัดเวทีต่อ เดินหน้ายกระดับ “ไล่รัฐบาล”
ตั้งแต่เย็น-ค่ำวานนี้ (11 พ.ย.) เครือข่ายภาคประชาชนชาวนครสวรรค์ ตลอดจน สรส.นครสววรรค์ ต่างตบเท้าร่วมกิจกรรมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พร้อมร่วมดูถ่ายทอดสดการพิพากษากรณีปราสาทพระวิหารของศาลโลกที่หน้าอุทยานสวรรค์อย่างต่อเนื่อง และเป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนคนที่เดินทางมาร่วมเวทีมากขึ้นกว่าเท่าตัว ทั้งที่มีเครือข่ายบางส่วนเดินทางไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ แล้วก็ตาม
กลุ่มผู้ชุมนุมได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยบนเวทีสลับกับการปล่อยสัญญาณสดจากเวทีค้านนิรโทษกรรมจาก กทม. จนถึงช่วงที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมด้วย ส.ส.ปชป.ขึ้นเวที และประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส.เพื่อร่วมต่อสู้กับประชาชนจนกว่าจะได้ชัยชนะ พร้อมประกาศมาตรการ 4 ข้อร่วมกัน คือ
1. ขอให้ทุกคนเคลียร์งานให้เสร็จภายใน 1 วัน ในวันนี้ (12 พ.ย.) จากนั้นให้หยุดงานในวันที่ 13-15 พ.ย. 56 มาร่วมชุมนุมกัน 2. ขอให้หน่วยงานภาคธุรกิจต่างๆ ชะลอการเสียภาษีเพื่อไม่ให้รัฐบาลนำเงินไปใช้โกงกินต่อไป
3. ให้แสดงสัญลักษณ์โดยการชักธงชาติที่บ้าน และนำมาติดที่รถ และเมื่อออกจากบ้านก็ขอให้ใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์ธงชาติ และห้อยนกหวีดไว้ที่คอ 4. เมื่อเจอนายกรัฐมนตรี หรือคนของรัฐบาลให้เป่านกหวีดใส่เพื่อแสดงอารยะขัดขืนไม่เอารัฐบาลชุดนี้
หลังสิ้นการปราศรัยของนายสุเทพ เวทีนครสวรรค์ก็มีตัวแทนของกลุ่มหลากสี กลุ่มหน้ากากขาว ขึ้นปราศรัยต่อทันที โดยกล่าวว่า กลุ่มค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนครสวรรค์ ชุดแรกที่ร่วมชุมนุมหน้าป้ายอุทยานสวรรค์ติดต่อกันมานานหลายวันแนวโน้มจะชุมนุมต่ออีก 3 วัน จากนั้นจะยกเวทีหน้าอุทยานสวรรค์ให้กลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส.นครสวรรค์ ที่นำโดยนายสุพัฒน์ ทบอุต เลขาธิการ สรส.นครสวรรค์ ให้ดำเนินการยกระดับการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลต่อไป