สกลนคร- สลด! แม่ใจยักษ์นำศพเด็กทารกอายุครรภ์ 4 เดือน ทิ้งป่าละเมาะหลังวัดบ้านหนองทรายขาว ตร.คาดสาวใจแตกนำมาทิ้งไว้ เร่งหาตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (11 พ.ย.) เวลา 16.30 น. ร.ต.ท.ภูวนัย ถาวงค์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีชาวบ้านไปพบศพเด็กทารกถูกนำไปทิ้งที่ป่าละเมาะข้างถนนบริเวณหลังวัดบ้านหนองทรายขาว ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร
หลังได้รับแจ้งจึงได้ออกตรวจสอบ พร้อมประสาน นายแพทย์ธานี จรูญธรรม แพทย์เวรฯ ชันสูตรจากโรงพยาบาลสกลนคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เมตตาธรรมมูลนิธิร่วมออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะติดกับถนนที่เชื่อมต่อระหว่างชุมชนหนองทรายขาว กับชุมชนกกส้มโฮง ห่างจากถนนเข้าไปในป่าละเมาะประมาณ 20 เมตร มีไทยมุงจำนวนมาก ยืนเกาะกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ และพบศพเด็กทารกอายุครรภ์ประมาณ 4 เดือน ถูกห่อด้วยผ้าถุงสีแดงลายดอกและห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกอีก 1 ชั้น ถูกฝังอยู่ภายในหลุมลึกประมาณ 10 เซนติเมตร
โดยมีร่องรอยการขุดหลุมฝังศพทารกแต่กลับขุดหลุมไม่ลึก และการกลบดินฝังเพื่อปกปิดแต่กลบดินไม่สนิท จึงทำให้มีสัตว์ได้กลิ่น และขุดคุ้ยศพขึ้นมา ตรวจสอบพบว่า ยังมีสายรกพันอยู่ในตัวศพ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นหญิง หรือชาย เนื่องจากทารกมีอายุครรภ์ประมาณ 4 เดือนเท่านั้น
จากการสอบถาม นายศราวุฒิ แสนราษฎร์ อายุ 17 ปี ที่อยู่ 99 หมู่ 8 บ.หนองไผ่ ต.ระแงง อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ไปพบศพเด็กทารกบอกว่า ตนเองเป็นคนงานก่อสร้างซึ่งมาทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่ตึกแถวสร้างใหม่ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ ได้มาหาเก็บเห็ดที่บริเวณแนวป่าละเมาะดังกล่าว และพบถุงพลาสติกพร้อมชายผ้าถุงโผล่ขึ้นมาจากดิน ซึ่งมีร่องรอยการฝังกลบใหม่ๆ และมีกลิ่นแปลกๆ จึงได้ดึงถุงพลาสติกขึ้นมาเปิดดูก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าในห่อผ้าถุงมีศพเด็กทารกอยู่ จึงได้ไปเรียกเพื่อนๆ และนายจ้างมาดู และแจ้ง จนท.ตำรวจออกมาตรวจสอบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นทางลาดลงไปสู่หนองน้ำ และทุ่งนา และอยู่ใกล้กับทางโค้งหลังวัด ปกติแต่ก่อนมักจะมีชาวบ้านนำขยะมาทิ้งในบริเวณดังกล่าว จึงไม่ค่อยมีใครสนใจพวกถุงบรรจุสิ่งของมากนักเพราะคิดว่าเป็นขยะ จึงเป็นสถานที่ที่แม่ใจร้ายนำเด็กมาทิ้ง ถึงแม้จะขุดดินฝังกลบแต่ก็ยังมีสัตว์จำพวกสุนัขมาขุดคุ้ยเขี่ยจนมีผู้ไปพบเห็นดังกล่าว
ชาวบ้านบอกว่า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเคยมีผู้พบศพเด็กทารกถูกนำมาทิ้งในบริเวณดังกล่าวประมาณ 3 ศพแล้ว จนเป็นที่หวาดผวากันไปทั่วถึงความเฮี้ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงค่ำมืดดึกดื่นแทบจะไม่มีผู้ใดใช้เส้นทางสายดังกล่าวเพราะความกลัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ที่นําซากศพทารกมาทิ้งน่าจะเป็นฝีมือของวัยรุ่นในละแวกที่อาจจะทําแท้ง หรือคลอดก่อนกําหนด หรือไม่ก็อาจจะเป็นฝีมือของคลินิกรับทำแท้งเถื่อน เมื่อทำแท้งเสร็จแล้วอาจจะนำมาฝังทิ้งดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทําผิดมาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป