ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำทีมจับผู้ต้องหาขนยาบ้า 2 คดี ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่-เชียงราย ได้ยาบ้ามโหฬารเกือบล้านเม็ด ทีมจับกุมแจงพ่อค้ายาหันใช้รถดัดแปลงขนหลังแผนส่งผ่านระบบลอจิสติกส์เริ่มไร้ผล ด้าน ผบช.ปส. แจงสั่งคุมเข้มหวั่นพ่อค้ายาฉวยโอกาสตำรวจเข้า กทม. ดูแลม็อบขนสินค้า เล็งเดินหน้าทำความเข้าใจกลุ่มชาวเขา พร้อมปูพรมสอบบัญชีการเงินต้องสงสัย หวังพบเส้นทางการเงินพ่อค้ายาทั้งเครือข่ายก่อนหาทางตัดตอน
วันนี้ (9 พ.ย.) ศูนย์สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด รวม 2 คดี พร้อมของกลางยาบ้า 850,000 เม็ด โดยมี พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พ.ต.อ.สาธิต เกตานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ร่วมในการแถลงข่าว
การจับกุมยาเสพติดจำนวนมากในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา และยาเสพติดรวม 2 คดี ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ โดยคดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายเหม่ง แซ่ห่อ นายไพศาล นภาสกุลรัตน์ นายเลาโก แสงสรทวีศัดดิ์ และ น.ส.จ๊ะ เลาหลือ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวนประมาณ 400,000 เม็ด พร้อมรถกระบะรวม 3 คัน หลังสืบทราบว่า กลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดของ นายเลาโก ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าม้ง เขต อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ จะลำเลียงยาเสพติดจาก จ.เชียงราย เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ติดตามรถของกลุ่มผู้ต้องหาที่เดินทางมาขนยาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก่อนจะสกัดจับนายเหม่ง และนายไพศาล พร้อมยาบ้าได้ที่จุดตรวจแม่โถ สภ.แม่เจดีย์ องเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และติดตามสกัดจับ นายเลาโก และ น.ส.จ๊ะ ได้ที่บริเวณสามแยกหน้าตู้ยามตำรวจทุ่งฟ้าบด สภ.สันป่าตอง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รวมทั้งยังได้ขยายผลยึดทรัพย์สินของ นายเลาโก อีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท
ส่วนคดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายไชยวัฒน์ สินหมี่ นายสมบุญ ตามิ และนายชัยยา ลี้พัชรกุล พร้อมยาบ้าจำนวนประมาณ 450,000 เม็ด และรถกระบะรวม 2 คัน ที่บริเวณหน้าห้างเทสโก้ โลตัส สาชาผาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และที่จุดตรวจป่าไม้ ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังสืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าม้งและลีซอ จะนำยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไปยังกรุงเทพมหานคร โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผม 9065 เชียงใหม่ ซึ่งดัดแปลงให้มีช่องลับใต้กระบะในการลำเลียงยาเสพติด และได้ติดตามรถคันดังกล่าว และรถนำทางก่อนจะสกัดจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี แสดงให้เห็นถึงความพายายามในการเปลี่ยนวิธีการลำเลียงยาเสพติดของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ด้วยการหันมาใช้การซุกซ่อนยาเสพติดในรถที่มีการดัดแปลงในปริมาณที่น้อยลง หลังจากที่ในระยะหลังวิธีการอื่นๆ อย่างเช่น การขนส่งผ่านเครือข่ายการขนส่งต่างๆ ไม่ประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกัน ทั้ง 2 คดี ยังเป็นการลงมือของกลุ่มชาวเขาที่ยังมีบางส่วนยังคงเกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติดอยู่
ด้าน พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผู้บัญชาการตำรวจราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติดยังคงติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพมหานคร จากเหตุการณ์การชุมนุมต่างๆ ซึ่งอาจทำให้กลุ่มผุ้ค้ายาเสพติดฉวยโอกาสในการลำเลียงยาเสพติดได้ ขณะเดียวกัน จะมีการเดินหน้าทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวเขาเผ่าต่างๆ ตามแนวทางที่ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบไว้ เนื่องจากต้องยอมรับว่าในปัจจุบันยังมีชาวเขาบางส่วนที่เกี่ยวข้อง และมีบทบาทสำคัญในการค้า และลำเลียงยาเสพติด
พล.ต.ท.สุรพล กล่าวต่อไปว่า อีกมาตรการหนึ่งที่จะมีการดำเนินการ ได้แก่ การตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้รับข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของบุคคลที่คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด หรือมีการทำธุรกรรมกับบัญชีของผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งลังจากนี้ จะต้องทำการตรวจสอบว่าเจ้าของบัญชีดังกล่าวเปิดบัญชีเพื่อใช้เอง หรือเป็นเพียงนอมินีที่รับเปิดบัญชีให้แก่ผู้อื่น รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน และการทำธุรกรรมต่างๆ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบความผิดปกติหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของการฝาก และถอนเงินที่ไม่สมดุลกัน เม็ดเงินที่เคลื่อนไหวผ่านบัญชีซึ่งหลายบัญชีมีปริมาณสูงในระยะเวลาสั้นๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าการตรวจสอบดังกล่าวคงจะต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะมีรายละเอียดจำนวนมากที่ต้องตรวจสอบ แต่หากสามารถตรวจสอบได้แล้ว เชื่อว่าจะทำให้พบเส้นทางทางการเงิน และกระบวนการทำธุรกรรมทางการเงินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด และจะนำไปสู่การสกัดเส้นทางดังกล่าวเพื่อไม่ให้เงินที่ได้จาดยาเสพติดกลับไปสู่ผู้ผลิต หรือผู้ขายได้ในอนาคต