ลำพูน - รถพ่วงสิบแปดล้อบรรทุกข้าวเปลือกซิ่งฝ่าลมหนาวแข่งกับเก๋ง แหกโค้งชนเสาไฟฟ้าหัก ก่อนเสียหลักพุ่งชนบ้าน-รถเก๋งติดแก๊ส ไฟลุกท่วมทั้งบ้าน-รถ คนดับสยอง 1 ราย
เมื่อเวลา 22.05 น. คืนที่ผ่านมา (4 พ.ย.) ร.ต.อ.พยงค์ศักดิ์ การิยะ พงส.สบ.2 สภ.ป่าซาง จ.ลำพูน รับแจ้งจากศูนย์วิทยุตำรวจ 191 ลำพูน ว่ามีรถพ่วงบรรทุกสิบแปดล้อแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำไฟลุกท่วม เหตุเกิดที่ทางโค้งใกล้ตลาดบ้านแซม หมู่ 2 ต.ม่วงน้อย จึงประสานรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบริเวณใกล้เคียงกว่า 10 คันไปช่วยดับไฟ และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิตุชัย บุญมี ผกก.สภ.ป่าซาง
พบรถพ่วงฮีโน่สิบแปดล้อแบบ 2 ตอน สีฟ้า รุ่น 500 ของบริษัท มีขุมทรัพย์หทัยรัตน์ จำกัด ทะเบียนหัวลาก 70-1059 ลำพูน ทะเบียนพ่วง 10-1060 ลำพูน บรรทุกข้าวเปลือกมาเต็มคันรถ แหกโค้งพุ่งชนและเกี่ยวเอาเสาไฟฟ้า 4 ต้นหัก พลิกคว่ำอยู่ข้างถนนไฟลุกท่วมทั้งคัน ใกล้กันพบรถยนต์ฮอนด้า บริโอ ทะเบียน ขพ 9746 เชียงใหม่ พุ่งชนบ้านเลขที่ 4 หมู่ 2 ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง ของนายวี ปาคำวัง จนไฟลุกท่วมทั้งบ้านและรถ ในรถยนต์พบผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง ถูกไฟคลอกตายคาอยู่ในรถ 1 ราย
และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย โดย 2 รายเป็นคนขับและพนักงานประจำรถบรรทุกพ่วง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าซางแล้ว ส่วนคนขับรถยนต์ฮอนด้าถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลลำพูน
นอกจากนี้ไฟยังได้ไหม้บ้านเลขที่ 90 หมู่ 2 ซึ่งอยู่ใกล้กัน ต้องใช้รถดับเพลิงกว่า 10 คันระดมฉีดน้ำสกัดไฟ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงดับไฟได้
จากการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุรถพ่วงบรรทุกสิบแปดล้อขับมาตามถนนป่าซาง-ลำพูน เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง รถพ่วงสิบแปดล้อเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า และเกี่ยวเอาเสาไฟลากยาวมาชนต้นที่ 2 จนพลิกคว่ำไฟลุกไหม้ ทำให้ไฟฟ้าดับทั่วอำเภอ ขณะเดียวกันมีรถยนต์ฮอนด้าติดแก๊ส มีนายจักรพันธ์ ชมพูกา อยู่บ้านเลขที่ 97/1 หมู่ 2 ต.แม่แรง ขับตามหลังมา หักหลบและเสียหลักพุ่งชนบ้านเลขที่ 4 หมู่ 2 ต.ม่วงน้อย ทำให้เกิดการระเบิด ไฟลุกไหม้ทั้งรถยนต์และบ้านทั้งหลัง
โดยนายจักรพันธ์สามารถออกมาจากรถได้ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าซาง ส่วนแฟนสาวชื่อเล่นนิ่ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ไม่ทันได้ออกมาจากรถ ถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ ลักษณะนอนตัวงอหลบไปทางซ้ายประตูเหมือนหลบภัย
ขณะเดียวกันไฟยังได้ลุกลามไปไหม้บ้านเลขที่ 90 หมู่ 2 ต.มะกอก ซึ่งเป็นบ้านของนายถนอม คำวัง อายุ 70 ปี ซึ่งอยู่ใกล้กันอีกหลังหนึ่งจนได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง