เครือข่ายต้านโกงโคราชฮือร่วมภาคีราชภัฏ ยกพลยึด “ลานย่าโม” ค้านนิรโทษกรรม

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เครือข่ายต้านคอร์รัปชั่นโคราช ระดมทุกภาคส่วนลุกฮือต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งสุดซอย ลั่นยึดลานย่าโมชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ระบุเย็นนี้รวมตัวที่ ม.ราชภัฏนครราชสีมาร่วมกลุ่มภาคีคณาจารย์นักศึกษา ก่อนยกพลไปลานย่าโม สมทบกลุ่มหน้ากากขาว เผยเตรียมยืนหนังสือผู้ว่าฯ พร้อมรุกหนักยกระดับการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ขณะศาลากลางฯ คุมเข้มผวาซ้ำรอยแดงเผาเมือง

วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการประชุมเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันจังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุม มีตัวแทนองค์กรต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมากว่า 10 องค์กรเข้าร่วม โดยที่ประชุมมีการหารือเกี่ยวกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรวาระ 2 และ 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ในประเด็นที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับปัญหาการคอร์รัปชัน โดยที่ประชุมใช้เวลาในการหารือนานหลายชั่วโมง

นายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย โดยเฉพาะการนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่มีความผิดคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งทุกวันนี้เราพยายามรณรงค์ให้บ้านเมืองโปร่งใสปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชัน หากมีการนิรโทษกรรมผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ทำการทุจริตคอร์รัปชัน บ้านเมืองคงไม่มีหลักยึดเหนี่ยว และไม่สามารถสอนลูกหลานเราได้ว่าโตไปไม่โกง ฉะนั้นหากคนทำผิดแล้วมีกฎหมายมาล้างผิด จะสร้างความเสียหายต่อหลักธรรมาภิบาลของประเทศเป็นอย่างมาก

ดังนั้น วันนี้จึงมีมติที่จะแสดงจุดยืนโดยการนัดชุมนุมกันเพื่อแสดงออกถึงพลังคนที่ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ดังกล่าวที่ลานไทร ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งจะมีกลุ่มนักศึกษาและคณาจารย์ส่วนหนึ่งนัดรวมตัวกันอยู่แล้ว ในเวลา 16.30 น.วันนี้ (1 พ.ย.) จากนั้นจะเคลื่อนขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดไปยังหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถนนราชดำเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา และจะมีกลุ่มหน้ากากขาว มาปักหลักรอสมทบการชุมนุม พร้อมเปิดเวทีปราศรัยที่ลานย่าโม ตั้งแต่เย็นวันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะตามข้อเรียกร้อง

ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะยื่นหนังสือแสดงจุดยืนต่อนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้รับรู้ว่าคนโคราชไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งสุดซอยนี้ และกิจกรรมในแต่ละวันจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและยกระดับการชุมนุม ซึ่งอาจมีการชุมนุมแบบดาวกระจายไปตามสถานที่สำคัญ เช่น ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อวางพวงหรีดดำและส่วนหนึ่งเดินทางไปชุมนุมที่หน้า สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นต้น ทั้งนี้การเดินทางไปสถานที่ราชการทั้ง 2 แห่งเพื่อไปปกป้องรักษาสถานที่ราชการเนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้ชุมนุมกลุ่มที่ไม่หวังดีมาเผาบ้านเผาเมืองเหมือนที่เคยเป็นมา

“การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดเวทีให้แก่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยครั้งนี้ โดยเป็นเวทีเปิดกว้างสำหรับเสรีชนทุกคน ทุกสี ทุกกลุ่ม เราไม่อิงกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่ง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของประชาชนทุกคนที่สามารถออกมาแสดงความคิดเห็นได้เพื่อให้ชาติบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ยืนยันว่าการชุมนุมจะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นแน่นอน” นายจักรินกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ (1 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยเข้มงวดมากขึ้น โดยนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้จัดกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) เข้าประจำจุดประตูเข้า-ออกด้านหน้าศาลากลางจังหวัด โดยตั้งจุดตรวจรถยนต์ทุกคันที่ผ่านเข้าไปยังศาลากลางจังหวัด ตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นและ มีกำลัง อส. ผลัดเปลี่ยนเข้าเวรประจำครั้งละ 7 นาย ส่วนประตูเข้าออกศาลากลางจังหวัดฯ ด้านอื่นๆ ได้ทำการปิดตายไม่อนุญาตให้เข้าออกทั้งหมด