สกลนคร - ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนครแถลงผลการปฏิบัติการเข้มแข็งในพื้นที่รวบผู้ต้องหาขนยาบ้าลง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยึดของกลางได้กว่าแสนเม็ด
วันนี้ (30 ต.ค.) เวลา 16.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สกลนคร พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทวัส บูรณสมภพ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจภูธร จ.นครพนม ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย และยาบ้าของกลางอีกกว่า 105,500 เม็ด
ทั้งนี้ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจเข้มแข็ง โชคชัย ของ สภ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น โดยมีกำลังอีกส่วนขับรถยนต์ตราโล่ของทางราชการวิ่งสำรวจตามเส้นทาง และก่อนจะถึงด่านตรวจประมาณ 1 กิโลเมตร พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้าซิตี้ สีเทา หมายเลขทะเบียน กย 8265 สงขลา จึงเข้าทำการตรวจสอบพบว่า มีนายอัสมิง ยะแต อายุ 35 ปี อยู่เลขที่ 91/1 หมู่ที่ 3 ต.ปูโยะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เป็นคนขับ ภายในรถยังพบใบกระท่อม 13 ใบ
สอบสวน นายอัสมิง ให้การรับสารภาพว่ากำลังเดินทางมุ่งหน้าไปรับยาบ้าที่ จ.นครพนม เพื่อลำเลียงสู่ภาคใต้ตอนล่าง โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 3 แสนบาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขยายผลจนสามารถจับกุมนายนิวัฒน์ พรมเกตุ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 8 บ.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้ที่บริเวณเชิงสะพานบ้านท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมยาบ้าของกลาง จำนวน 105,500 เม็ด รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการขนส่งยาบ้า ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กนข 42 นครพนม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อสอบสวนขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนผู้ต้องหาอีกรายเป็นผลงานการปฏิบัติการตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณตู้ยาม ต.โชคชัย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ซึ่งในขณะปฏิบัติหน้าที่ มีรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยท่าทีมีพิรุธขับขี่โดย นายทองสา หลักทองคำ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ที่ 4 ต.สวาท อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร จากการตรวจค้นพบยาบ้ารวม 1,138 เม็ด โดยเป็นยาบ้าเม็ดสีส้ม 1,126 เม็ด และยาบ้าชนิดเม็ดสีเขียว 12 เม็ด
จึงแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
โดย พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ได้กล่าวถึงสถาการณ์การค้ายาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีการลักลอบขนยาเสพติดบริเวณรอยต่อประเทศเพื่อนบ้านตามลำน้ำโขง แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินมาตรการเข้มข้นในการจับกุม