ชี้อาคารเรียน ม.เทคโนฯ กาฬสินธุ์ถล่ม เหตุแบบเทคานไร้มาตรฐาน

กาฬสินธุ์ - คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอาคารเรียนรวม 9 ชั้นของมหาวิทยาลัยเทคโนโยลีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ถล่ม ระบุเกิดจากขั้นตอนการเทปูนเนื่องจากการผู้รับเหมาใช้แม่แบบไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งฝ่ายจ้างงานไม่มีวิศวกรควบคุมงาน จนเป็นเหตุให้ผู้รับเหมาทำงานมักง่าย

วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานความคืบหน้าปัญหาการก่อสร้างอาคารเรียนรวม 9 ชั้นของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตกาฬสินธุ์ถล่ม บริเวณชั้น 6 ขณะทำการเทคานในรูปแบบโพสเทนชัน หรือการเทคานทั้งแผ่นด้วยการใช้สลิงตรึงปูนทั้งแผ่น

ล่าสุดนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯโดยมอบให้ 5 หน่วยงาน ประกอบด้วยโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาธิการเทศบาลเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาธิการองค์การบริหารส่วนจังหวัด และรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ โดยมีนายสุพจน์ รัชชูศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธาน

เบื้องต้นนายอดิเรก วัฒนาอุดมชัย โยธาธิการและผังเมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า สาเหตุการพังทลายเกิดจากแม่แบบที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้เกิดปัญหาในระหว่างขั้นตอนการเทปูน ทั้งนี้ได้พุ่งเป้าไปที่การตรวจสอบ แบบการก่อสร้างตัวอาคาร งานก่อสร้างจากกลุ่มผู้ควบคุมอาคาร เพื่อสอบหาว่ามีปัญหาการดัดแปลงหรือต่อเติมวัสดุหรือไม่

ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบพบว่า ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ควบคุมงานฝ่ายผู้จ้างงานของมหาวิทยาลัยฯ ไม่มีวิศวกรควบคุมงาน จึงอาจเป็นเหตุให้ผู้รับเหมาทำงานแบบมักง่าย ซึ่งจะทำรายงานส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการพิจารณาต่อไป

ขณะที่นายจิระพันธ์ ห้วยแสน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ ได้เรียกประชุมผู้รับเหมาและเปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้รับเหมาพร้อมที่จะปฎิบัติตามเงื่อนไขทุกประการ เบื้องต้นจะทำการรื้อถอดซากความเสียหายบริเวณชั้น 6 ทั้งหมด จากนั้นจะทำการตรวจสอบความแข็งแรงก่อนถึงจะทำการเทคานใหม่ การแก้ปัญหาจะยังไม่รวมถึงกำหนดวันสิ้นสุดงานในวันที่ 10 มกราคม 2558 ซึ่งหากผลการทำงานเลยกำหนดก็พร้อมที่จะให้ทางมหาวิทยาลัยฯ ทำการปรับทันที

สำหรับอาคารที่พังถล่มลงมาขณะนี้ได้รับความสนใจจากนักศึกษาและประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่ต้องการให้อาคารเรียนแห่งนี้มีความคงทนแข็งแรง จึงต้องการใหทางมหาวิทยาลัยฯ ชี้แจงแนวทางการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อให้คณะครู นักศึกษา เกิดความมั่นใจในการใช้อาคารหลังนี้หากทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ