พบ “แฝดสยามปากน้ำโพ” ท่อนล่างติดกัน บังคับขาคนละข้าง

นครสวรรค์ - พบ 2 หนูน้อยแฝดสยามเมืองปากน้ำโพท่อนล่างติดกัน ต้องช่วยกันบังคับขาคนละข้างเพื่อเคลื่อนไหว

วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเด็กแฝดร่างกายติดกัน ลักษณะคล้ายกับแฝดสยาม ซึ่งคนที่พบเห็นต่างเรียกว่า “แฝดสยามเมืองปากน้ำโพ” จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเช่าเลขที่ 168/15 หมู่ 1 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นห้องแถวเล็กๆ และเป็นห้องพักของ ด.ญ.จรูญโรจน์ หรือน้องปิ่น และ ด.ญ.จรูญพันธุ์ หรือน้องปาน ร่มโพธิ์เย็น สองหนูน้อยที่มีร่างกายติดกัน ขณะนี้อายุ 4 ปี 5 เดือน ร่างกายแข็งแรง นิสัยร่าเริงเหมือนเด็กปกติทั่วไป

นายเสน่ห์ ร่มโพธิ์เย็น อายุ 56 ปี ปู่ของน้องปิ่น-น้องปาน กล่าวว่า ทุกวันนี้ตนและภรรยาเป็นผู้ดูแลน้องปิ่น-น้องปาน เนื่องจากพ่อของทั้งสอง คือ นายมนัส ร่มโพธิ์เย็น ต้องรับจ้างแห่มังกร แห่สิงโต ออกต่างจังหวัดครั้งละ 1-2 เดือน ซึ่งกว่า 4 ปีที่ผ่านมาก็เห็นพัฒนาการของน้องปิ่น-น้องปานอย่างต่อเนื่อง เล่นซนเช่นเดียวกับเด็กวัยเดียวกัน ก่อนหน้านี้เคยพาหลานไปสมัครเรียนที่โรงเรียนวัดยาง ต.นครสวรรค์ตก ห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนก็ให้หลานนเข้าเรียนตามปกติ แต่ด้วยร่างกายที่ไม่ปกติจึงมีเพื่อนร่วมห้องมารุมเล่นด้วยตลอดทั้งวัน

และปัญหาที่แย่กว่านั้นคือ น้องปิ่น-น้องปานยังคงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องมีคนคอยเปลี่ยนแพมเพิร์สให้ ซึ่งครูประจำชั้นอนุบาลไม่มีเวลาดูแลได้ตลอดทั้งวัน ครอบครัวจึงตัดสินใจไม่พาน้องปิ่น-น้องปานไปโรงเรียน เพราะต้องทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ไม่มีเวลาไปดูแลที่โรงเรียน แต่ก็สอนหนังสือให้น้องปิ่น-น้องปานที่บ้านแทน

นายเสน่ห์กล่าวว่า น้องปิ่น-น้องปานมีร่างกายท่อนบนแยกกันตั้งแต่ช่วงเอว แต่ท่อนล่างติดกัน ถ้าจะเคลื่อนไหวในส่วนของขาก็จะบังคับกันคนละข้าง ขาข้างซ้ายของปาน ข้างขวาของปิ่น ปัจจุบันน้องปิ่น-น้องปานมีรถที่ทำพิเศษไว้ให้นั่งแล้วใช้เท้าดันไปเอง ซึ่งทั้ง 2 คนชอบมาก ทุกวันจะต้องให้ปู่-ย่าพาเดินเล่นรอบบ้านเช่า และตามถนนเพื่อซื้อขนมที่ร้านประจำ

“หวังว่าทั้งสองจะเดินได้เองเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์บอกว่าหากฝึกเดินอย่างถูกวิธีก็จะสามารถเดินได้เอง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถฝึกได้ เพราะยังเด็กอยู่ ต้องรอให้อายุครบ 6 ขวบจึงจะหัดให้เดินเอง แต่ยังต้องใช้ไม้ค้ำยัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาให้นั่งรถแล้วได้ใช้ขาทั้งสองดันพื้นขับเคลื่อนก็ทำให้ขาแข็งแรงขึ้น อาจจะฝึกเดินได้เร็วขึ้น”

นายเสน่ห์กล่าวว่า ช่วงปิดเทอมนี้ พี่น้องคนละแม่ของน้องปิ่น-น้องปาน ทั้ง ด.ช.อธินันท์ ร่มโพธิ์เย็น อายุ 12 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ด.ญ.ธิตินันท์ ร่มโพธิ์เย็น อายุ 7 ขวบ และ ด.ญ.เสาวรักษ์ ศิลปะชัย อายุ 7 ขวบ ก็มาช่วยดูแล และเป็นเพื่อเล่นกับน้องปิ่น-น้องปาน

ด.ช.อธินันท์กล่าวว่า ตนมาช่วยดูแลน้อง ถ้าถุงใต้ท้องน้อยป่องก็ต้องคอยปล่อยลมออกจากถุง ถ้าน้องอยากไปไหนก็จะอุ้มน้อง และพาน้องไปเล่นข้างนอก ที่ผ่านมารักและสงสารน้องมากที่เกิดมาไม่เหมือนคนอื่น เมื่อมีเวลาว่างก็จะมาดูแล น้องอยากได้อะไรก็เอามาให้ รวมถึงสอนน้องอ่านหนังสือด้วย เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของปู่-ย่าและพ่อ

ทั้งนี้ เงินที่ใช้เลี้ยงดูน้องปิ่น-น้องปานและคนในครอบครัวอีก 6 คนได้รับจากเบี้ยคนพิการ และเงินช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานประมาณ 6,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ปู่-ย่าก็เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ช่วยนายมนัสหาเงินจุนเจือครอบครัวอีกทาง