“ซูมิโตโม” เปิดศูนย์บริการเมืองหมอแคน เชื่อเปิดเสรีอาเซียนดันยอดโตก้าวกระโดด

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ซูมิโตโม” ผู้ผลิตรถแบ็กโฮแดนปลาดิบ เปิดศูนย์บริการและโชว์รูมจำหน่ายที่ขอนแก่น มุ่งจับตลาดงานรับเหมาก่อสร้างภาคอีสานและประเทศเพื่อนบ้าน เผยตลาดตอบรับผลิตภัณฑ์สูงขึ้น โอกาสเติบโตสูง รับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ศูนย์บริการซูมิโตโมขอนแก่น ริมถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอร์รี่ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ซูมิโตโม ในประเทศไทย จัดกิจกรรมเปิดศูนย์บริการและโชว์รูมจำหน่ายเครื่องจักรกลหนัก (รถแบ็กโฮ) โดยร่วมกับบริษัท รวมทวีขอนแก่น จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการผลิตภัณฑ์ซูมิโตโมในภาคอีสานทั้งหมด

นายฉกาจ แสงจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอร์รี่ จำกัด เปิดเผยว่า รถแบ็กโฮและเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ซูมิโตโมทำตลาดมากว่า 50 ปี ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสูงขึ้น นอกจากลูกค้าหน่วยงานราชการแล้ว กลุ่มผู้รับเหมาทั่วไปรู้จักและเลือกใช้เครื่องจักรกลหนักซูมิโตโมสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในพื้นที่ภาคอีสานยังไม่มีศูนย์บริการและโชว์รูมเพื่อให้บริการลูกค้าในภูมิภาค

บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอร์รี่ ในฐานะตัวแทนจำหน่ายของซูมิโตโม ประเทศญี่ปุ่น เล็งเห็นความสำคัญและศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภาคอีสาน จึงร่วมกับบริษัท รวมทวีขอนแก่น จำกัด เปิดศูนย์บริการซูมิโตโมขึ้น ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการจำหน่ายเครื่องจักรกลหนัก และให้บริการลูกค้าที่ใช้รถแบ็กโฮซูมิโตโมได้รับความสะดวกขึ้น

ทั้งนี้ รถแบ็กโฮและเครื่องจักรกลหนักซูมิโตโมได้รับการตอบรับจากลูกค้าในภาคอีสานสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างทั่วไปเลือกผลิตภัณฑ์ซูมิโตโมใช้งาน สามารถรุกขยายตลาดอย่างน่าพอใจ ซึ่งการทำตลาดในภาคอีสาน บริษัทให้ความสำคัญต่อกลุ่มลูกค้าภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างทั่วไปที่ให้การตอบรับผลิตภัณฑ์ซูมิโตโมสูงมาก

สำหรับภาพรวมการทำตลาดปี 2556 ซูมิโตโมได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ยอดขายในประเทศไทยลดลงร้อยละ 25-30 เช่นเดียวกับภาพรวมของอุตสาหกรรม คาดว่าปี 2557 จะสามารถแชร์ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะผลพวงจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 เชื่อมเศรษฐกิจไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจของซูมิโตโมประเทศไทยขยายตัวทางด้านยอดขายเพิ่มขึ้นมาก

นายฉกาจกล่าวว่า การเปิดเสรีอาเซียนจะมีการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมระหว่างประเทศสูงขึ้น รัฐบาลแต่ละประเทศจะทุ่มงบประมาณด้านการก่อสร้างถนน รวมถึงสาธารณูปโภคต่างๆ จะเกิดความต้องการเครื่องจักรกลหนักมากขึ้น น่าจะเป็นโอกาสดีต่อการขยายตลาด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานเชื่อว่าจะขยายตัวแบบก้าวกระโดด