กาญจนบุรี - บ้าน “คชวัตร” เงียบ หลานสาวเศร้าหลังทราบข่าว สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ เผยเสียใจเหมือนเมื่อครั้งพ่อเสีย เตรียมเดินทางร่วมพิธีพระศพที่โรงพยาบาลจุฬาฯ
หลังจากที่มีประกาศแถลงการณ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้สิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 19.29 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กทม.
เมื่อเวลา 21.30 น. วันนี้ (24 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านคชวัตร เลขที่ 367 ถ.ปากแพรก ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้าน และสถานที่ประสูติของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระนามเดิม เจริญ คชวัตร โดยสภาพของบ้านยังอยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยมีญาติเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการสิ้นพระชนม์ และมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้พระฉายาลักษณ์ที่ประดับไว้ที่กำแพงหน้าบ้านด้วย โดยเมื่อเข้าไปในบ้าน ผู้สื่อข่าวได้พบกับหลานสาวที่เป็นบุตรีของ นายจำเนียร คชวัตร น้องชายของสมเด็จพระสังฆราช รวม 2 คน คือ นางสุภา คชวัตร อายุ 62 ปี และนางเต็มศิริ คชวัตร อายุ 53 ปี
นางสุภา เปิดเผยเกี่ยวกับข่าวการสิ้นพระชนม์ว่า ตนได้รับการแจ้งข่าวจากทาง รพ.จุฬาลงกรณ์ ว่า สมเด็จลุงสิ้นพระชนม์ ซึ่งครอบครัวของเรามีความผูกพันกับพระองค์ท่านมาก โดยพี่สาวคนโตของตนคือ น.ส.รัตนา คัชวัตร อายุ 63 ปี ได้เดินทางไปเฝ้าอาการที่ รพ.จุฬาฯ ตั้งแต่หลายวันแล้ว และมีการแจ้งข่าวมาให้พวกเราทราบเป็นระยะ จนล่าสุด ทราบท่านทรงสิ้นพระชนม์ ซึ่งความรู้สึกก็เหมือนคนทั่วไปที่มีความเศร้า และเสียใจ แต่เนื่องจากมนุษย์ทุกคนหนีไม่พ้นความตาย จึงพยายามทำใจ ครั้งนี้มีความเสียใจเหมือนครั้งที่ครอบครัวเราสูญเสียคุณพ่อจำเนียร คชวัตร ที่เสียไปก่อนหน้านี้ พวกเรามีความรู้สึกเหมือนกัน
ส่วนเรื่องการจัดการพระศพ หากพระองค์ท่านเป็นพระธรรมดาเราก็จะเข้าไปจัดการในฐานะญาติได้ แต่นี่คงต้องรอให้สำนักราชเลขาฯ ในสมเด็จพระสังฆราช หรือทางวัดบวรนิเวศวรวิหารพิจารณา และตัดสินใจ ทางเราก็ต้องรอการดำเนินการเพราะว่าท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชของประชาชนชาวไทยทุกคน
นางสุภา กล่าวต่อว่า พระองค์ท่านถือเป็นความภาคภูมิใจของคนในครอบครัวคชวัตร ที่ถือว่าท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีงาม และเป็นสังฆราชาที่พุทธศาสนิกชนทุกคนต่างให้ความเคราพศรัทธา ท่านไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ท่านเป็นความงดงามที่บริสุทธิ์ของพุทธศาสนา อย่างเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ท่านมีพระชนมายุครบ 100 ปี พวกเราครอบครัวคชวัตรได้รับการแสดงน้ำใจจากชาวกาญจนบุรีที่มาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรถวายแด่พระองค์ท่าน วันนั้นเป็นวันที่ครอบครัวเรามีความสุขมาก แต่วันนี้เมื่อท่านสิ้นไปเราก็ต้องทำใจ และภาวนาอธิษฐานขอให้ท่านไปสู่สวรรค์ตามที่ท่านได้ปฏิบัติตนเป็นอริยสงฆ์ที่งดงามในจริยวัตรปฏิบัติตลอดเวลาที่อยู่ในการครองสมณเพศจนสิ้นพระชนม์ โดยพรุ่งนี้พวกเราญาติจะร่วมกันเดินทางไปเคารพพระศพที่ รพ.จุฬาฯ และจะร่วมในการประกอบพิธีต่างๆ ตามที่ผู้มีหน้าที่ได้กำหนดไว้ตามฐานะของลูกหลานเท่าที่จะสามารถทำได้