พระนครศรีอยุธยา - ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ว่าฯ กรุงเก่าเข้าเจรจากลุ่ม “คชสารคู่แผ่นดิน” ที่เพนียดหลวง หวังสกัดม็อบบุกกรุง แต่ไม่เป็นผล ขณะที่แกนนำคนเลี้ยงช้างทั่วประเทศยื่น 3 ข้อเรียกร้องรัฐบาลไล่ “วิเชษฐ์ เกษมทองศรี” และ “ดำรงค์ พิเดช” ฐานปากไม่ดีดูถูกเหยียดหยามชาวช้าง พร้อมจี้ “ประชา พรหมนอก” มารับหนังสือ ลั่นหากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้องวันจันทร์บุกทำเนียบฯ แน่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีขบวนช้าง และตัวแทนคนเลี้ยงช้างจากทั่วประเทศร่วม 100 เชือก มารวมตัวกันที่เพนียดหลวง ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อขับไล่นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และให้นายดำรงค์ พิเดช กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ออกมาขอโทษชาวช้างต่อการที่ออกมาพูดดูถูกเหยียดหยามชาวช้าง รวมทั้งเรียกร้องขอให้กระทรวงมหาดไทย เข้ามาเป็นผู้จัดทำจัดระเบียบช้างว่า
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (24 ต.ค.) ดร.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่ม “คชสารคู่แผ่นดิน” โดยบรรยกาศการเจรจาเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ทั้งนี้ กลุ่ม “คชสารคู่แผ่นดิน” ได้ยื่นข้อเรียกร้องของคนเลี้ยงช้าง 3 ข้อประกอบด้วย
1.ให้ปลด นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายดำรงค์ พิเดช กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ออกจากตำแหน่ง
2.ให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง มารับหนังสือข้อเรียกร้องด้วยตนเองในวันพรุ่งนี้ ที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ตำบลทุ่งภูเขาทอง
และ 3.ให้มีการขึ้นทะเบียนช้างให้ถูกต้องตามข้อตกลงที่ได้ประชุมตกลงกันเมื่อครั้งที่แล้ว หากไม่ได้ดังข้อตกลงก็จะบุกทำเนียบรัฐบาล ภายในไม่เกินวันจันทร์นี้แน่นอน
นาวาตรี ดร.วุฒิพงศ์ กล่าวภายหลังว่า ตนเห็นใจ และเข้าใจความรู้สึกของควาญช้างดี ที่ผ่านมาได้มีการพุดคุยกับกลุ่ม “คชสารคู่แผ่นดิน” ว่า เราจะมีการพุดคุย และให้ทางกลุ่มได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการแก้ไข ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองและอนุรักษ์ช้าง จนเป็นที่น่าพอใจ และทางกลุ่มอยากให้ทางกระทรวงมหาดไทย ยังคงเป็นผู้ดำเนินการในการจัดทำตั๋วรูปพรรณช้างให้เหมือนกับทำบัตรประชาชนออนไลน์ ช้างย้ายไปไหนก็สามารถแจ้งย้ายได้ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีฯ ก็รับปากว่าสามารถทำได้
“ส่วนข้อเรียกร้อง และความไม่พอใจของทางกลุ่มคชสารคู่แผ่นดินนั้น ผมจะนำไปเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการทรวงมหาดไทย และเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ขอยื่นยันว่าเรายังเห็นความสำคัญของช้างไทยที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองต่อไป” นาวาตรี ดร.วุฒิพงศ์ กล่าว
ด้านนายลายทองเหรียญ มีพันธ์ ตัวแทนกลุ่ม “คชสารคู่แผ่นดิน” กล่าวว่า ทางกลุ่มยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิมให้รัฐบาลยุติการเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.ช้างไทย ซึ่งกลุ่มคนเลี้ยงช้างไม่ได้ร่วมร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และมีบางมาตราที่กำหนดยึดช้างจากควาญช้างเป็นของรัฐ หากตั๋วรูปพรรณไม่ชัดเจน ซึ่งมองว่ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเลี้ยงดูช้างที่ยึดไปให้มีชีวิตอยู่รอดได้ ต้องให้กระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ
“และพวกเราเรียกร้องให้ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลาออก หรือรัฐบาลปลดออกจากตำแหน่ง และให้นายดำรงค์ พิเดช กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ออกมาขอโทษต่อการที่ดูถูกกเหยียดหยามกลุ่มควาญช้าง หากไม่มีการดำเนินการดังกล่าว ในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2556 เราจะเดินทางเข้าไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อพบกับ นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีช้างจากทั่วประเทศกว่า 500 เชือก เข้าไปร่วมชุมนุมจนกว่าจะได้ตามข้อเรียกร้อง” นายลายทองเหรียญกล่าว
