เลย - เจ้าของบ้านติดลำน้ำภู ถ.เลย-เชียงคานร้องทุกข์ ฝนตกเซาะทำดินพังสไลด์ลงลำน้ำหายไปเกือบ 1 งาน ร้องหน่วยงานรัฐ-นักการเมืองเรื่องเงียบ หวั่นหากฝนตกอีกบ้านพังแน่ เพราะอีกแค่ 1 เมตรจะถึงเสาบ้าน
วันนี้ (23 ต.ค.) น.ส.สุภาภรณ์ วิปัสสา อาชีพรับราชการครู อยู่บ้านเลขที่ 192 ม.9 บ้านโพนไทร ถ.เลย-เชียงคาน อ.เมืองเลย จ.เลย ได้เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน ชมรมสื่อเสรีเลย ที่อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเลยว่า ตนเองมีบ้านพักตั้งอยู่ริมลำน้ำภูมากว่า 20 ปี แต่ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2556 ที่ผ่านมามีฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากจนเต็มตลิ่ง และพอน้ำลดดินเกิดการสไลด์พังลงไปในลำน้ำ บริเวณหน้าบ้านห่างจากตลิ่งพังลงเหลืออีกเพียงหนึ่งเมตรก็จะถึงเสาบ้านแล้ว
หากเกิดฝนตกลงมาอีกวิตกว่าบ้านอาจพังลงทั้งหลัง ทำให้บรรดาลูกหลานคนภายในบ้านต่างหวาดผวา นอนไม่หลับหากอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน
น.ส.สุภาภรณ์เล่าต่อว่า ที่ต้องมาร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนเพราะไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานใด ปัญหาริมตลิ่งน้ำพังและสไลด์ลงมานั้นเป็นติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว แต่ปีนี้ถือว่าหนักที่สุด ประเมินเบื้องต้นตนสูญเสียที่ดินไปหลายตารางวา เคยไปร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และ ส.ส.ในพื้นที่แล้ว ก็ไม่มีความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด
แต่ก็มีบางหน่วยงานเข้ามาดูสภาพปัญหาแล้ว บอกว่าจะกลับไปจัดสรรงบประมาณเพื่อทำแนวกันตลิ่งให้ แต่เรื่องก็เงียบหายไป
“อยากให้เป็นสื่อมวลชนเป็นสื่อกลางให้ภาครัฐหน่วยงานราชการในจังหวัดเลยช่วยมาดู และแก้ไขปัญหาของดินสไลด์ในหมู่บ้านโพนไทรอย่างเป็นระบบ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงอันตราย”
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบว่า บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ติดริมถนนสายเลย-เชียงคานขาเข้า บริเวณหัวสะพานข้ามน้ำภู แต่เป็นที่สูงกว่าถนนและลำน้ำภูประมาณ 7 เมตร บ้านหลังดังกล่าวเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ปัจจุบันถูกน้ำกัดเซาะหายไปแล้วประมาณ 1 งาน ที่ดินมีเอกสารสิทธิเป็นโฉนด
