xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้าน 3 อภ.บุรีรัมย์ร้องถูกสองผัวเมียโกงซื้อหมูอื้อ-แจ้ง ตร.ไม่คืบ ซ้ำถูกขู่กลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวบ้านผู้เสียหาย 16 ราย จาก อ.ชำนิ อ.ลำปลายมาศ และ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องเรียนนายอำเภอชำนิให้ช่วยเหลือ หลังถูกสองผัวเมียหลอกซื้อหมูไม่จ่ายเงินรายละ2-5 หมื่นบาท วันนี้ ( 21 ต.ค.)
บุรีรัมย์ - กำนัน พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านผู้เสียหาย 3 อำเภอ จ.บุรีรัมย์ 16 ราย หอบหลักฐานบันทึกแจ้งความ บิลซื้อขายหมู บุกร้องนายอำเภอชำนิให้ช่วยเหลือ หลังถูกสองผัวเมียเจ้าของเขียงหมูโกงเงินซื้อหมูรายละ 2-5 หมื่นบาท ซ้ำเติมเดือดร้อนน้ำท่วม โวยแจ้งความคดีไม่คืบซ้ำถูกขู่ฟ้องกลับ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประมวล บ่อไทย กำนันตำบลช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้พาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านผู้เสียหาย 16 ราย จาก อ.ชำนิ อ.ลำปลายมาศ และ อ.นางรอง พร้อมหลักฐานบันทึกการแจ้งความ บิลซื้อ-ขายหมู เข้าร้องเรียนนายอำเภอชำนิ ที่ว่าการอำเภอชำนิ ให้ช่วยเหลือ หลังถูก นายทรงธรรม ทาภักดี และนางแดง ทาภักดี สองสามีภรรยาที่ขายเนื้อหมูชำแหละตามตลาดในเขต อ.ชำนิ และเร่ขายตามตลาดนัด หลอกซื้อหมูเป็นที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เป็นอาชีพเสริมช่วงว่างเว้นจากการทำนา รายละตั้งแต่ 20,000 ถึงกว่า 50,000 บาท แต่กลับไม่จ่ายเงินให้ชาวบ้านตามที่ตกลง

รวมทั้งไม่มีการออกใบเสร็จให้ เพียงเขียนบิลในกระดาษระบุน้ำหนักหมู และยอดเงินที่ซื้อ-ขายกันเท่านั้น บางรายมีการจ่ายเงินให้ก่อนบางส่วน ที่เหลือจะนัดมารับอีก 15 วัน หรือ 20 วันถัดไปเพื่อให้ผู้เสียหายตายใจ แต่พอถึงวันนัดกลับไม่ยอมจ่ายอ้างยังไม่มีเงิน เมื่อชาวบ้านไปทวงถามหลายครั้งก็ถูกปฏิเสธและบ่ายเบี่ยงตลอด จนเวลาผ่านมากว่า 5 เดือนแล้วยังไม่ได้รับเงิน

กระทั่งล่าสุดทั้งสองผัวเมียได้ปิดบ้านหนีหายไป ชาวบ้านจึงได้พากันเข้าแจ้งความและร้องให้ทางอำเภอชำนิช่วยเหลือติดตามตัวสองผัวเมียมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำเงินมาคืนให้ชาวบ้านด้วย เพราะขณะนี้ชาวบ้านที่ถูกหลอกต่างได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินทุนที่จะไปซื้อหมูมาเลี้ยง ทำให้ขาดรายได้ ประกอบกับที่นาก็ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการซ้ำเติมชาวบ้าน

ด้าน นางสัมฤทธิ์ ปิตายัง อายุ 85 ปี ชาวบ้าน อ.ชำนิ หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า ได้เลี้ยงหมูเป็นอาชีพเสริมช่วงว่างจากการทำนามากว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาจะขายหมูให้พ่อค้าในพื้นที่ อ.ชำนิ แต่ไม่เคยมีปัญหาอะไรได้รับเงินครบทุกบาท กระทั่งสองผัวเมียมาเปิดขายหมูในพื้นที่ได้ประมาณ 1 ปี และได้มาตระเวนซื้อหมูในหมู่บ้านโดยให้ราคาสูงกว่ารายอื่นกิโลกรัมละ 2 บาท จึงตัดสินใจขายให้ โดยตนขายไปทั้งหมด 6 ตัว เป็นเงินรวม 28,035 บาท แต่ได้รับเงินเพียง 1,000 บาท ที่เหลือนัดให้มารับอีกใน 20 วัน

แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปกว่า 5 เดือนแล้วยังไม่ได้รับเงินเลย ทำให้ไม่มีเงินทุนที่จะไปซื้อหมูมาเลี้ยง จึงอยากวอนให้ทางอำเภอช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาได้แจ้งความไปแล้วแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ซ้ำยังถูกข่มขู่ว่าหากเอาเรื่องจะฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาท

ขณะที่ นายศุภกิจ พินิจด้วง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.บ้านยาง อ.ลำปลายมาศ และเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกด้วย บอกว่า สาเหตุที่ชาวบ้านหลงเชื่อและตัดสินใจขายหมูให้กับสองผัวเมียดังกล่าวเนื่องจากมีการเสนอให้ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปกิโลกรัมละ 2 บาท ทั้งเชื่อใจนายทรงธรรม เพราะมีพี่ชายเป็นตำรวจอยู่ สภ.ชำนิด้วย จึงไม่ได้เอะใจว่าจะถูกหลอก กระทั่งมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อรายหลาย และเมื่อไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนยังถูกข่มขู่จะฟ้องกลับด้วยทั้งที่ชาวบ้านเป็นผู้เสียหาย จึงอยากวิงวอนให้ทางอำเภอช่วยเหลือ เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านที่บ้านเรือนและนาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหาย

ด้าน ว่าที่ ร.ต.สุทัศน์ ขันธะหัตถ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายอำนวยความเป็นธรรม อ.ชำนิ กล่าวภายหลังเป็นตัวแทนมารับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านว่า จะนำเรื่องร้องเสนอนายอำเภอให้รับทราบ และหลังจากนั้นจะได้เรียกตัวผู้ร้อง และผู้ถูกร้องมาสอบข้อเท็จจริง และไกล่เกลี่ยตามขั้นตอน แต่หากผู้ถูกร้องไม่ยอมมาก็จะประสานกับทางตำรวจให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายโดยการออกหมายเรียก และหมายจับตามกระบวนการ พร้อมรับปากว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และจะให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย





กำลังโหลดความคิดเห็น