xs
xsm
sm
md
lg

อึ้งพระบรมฉายาลักษณ์ 3 พระองค์ในห้องเก็บอาวุธ นปพ.กาญจน์ที่ถูกเพลิงไหม้ “เปลวไฟ-แ​รงระเบิด” ไม่​ระคาย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - จนท.อึ้งพบ “พระบรมฉายาลักษณ์ 3 พระองค์” กรอบทำด้วยไม้ และกระจกแขวนติดเอาไว้ที่ฝาห้องเก็บอาวุธภายในอาคาร นปพ.กาญจน์ที่ถูกไฟไหม้ ไม่มีร่องรอยของการถูกไฟไหม้ หรือถูกสะเก็ดระเบิดทำให้เสียหายเลยแม้แต่น้อย ขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารไม้ นปพ.เสียหายยับ “ผบก.กาญจนบุรี” สั่งตั้งกรรมการสอบ จนท.เวรยามหาสาเหตุเพลิงไหม้ หากพบบกพร่องถูกนำเนินคดีทางวินัย “ศพฐ.ภ.7” เร่งเก็บหลักฐานตรวจสอบคลี่คลายคดี 

คลิกเพื่อชมคลิป



ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอาคารที่ทำการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.กาญจนบุรี เลขที่ 105 หมู่ 12 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถูกเพลิงไหม้จนเป็นเหตุให้ห้องเก็บคลังแสงของทางราชการที่ใช้ประจำหน่วย นปพ.เกิดปะทุระเบิดอย่างรุนแรงจนหลังคากระเบื้องปลิวว่อน ส่วนห้องภายในอาคารได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด เหตุเกิดเวลาประมาณ 07.30 น. วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เร่งตรวจสอบหาสาเหตุอย่างเร่งด่วนตามที่ข่าวได้เสนอไปแล้วนั้น

ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (21 ต.ค.) พ.ต.อ.วิสิทธิ์ ศีริสหวัฒน์ รอง ผบก.ศพฐ.7 นครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ ศพฐ.ภ.7 นครปฐม นำเครื่องมือ และอุปกรณ์มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานจุดต้นเพลิงลุกไหม้ โดยมี พ.ต.ท.ธนบดี บุญพา พ.ต.ท.ชุมพล เฉลิมวิบูลย์ นักวิทยาศาสตร์ สบ 3 พฐ.จว.กาญจนบุรี ได้ร่วมตรวจสอบภายในห้องเก็บอาวุธ และหัวระเบิดกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร โดยภายในห้องดังกล่าวมีเศษไม้ที่ถูกเพลิงไหม้จนเป็นเถ่าถ่านกองอยู่เต็มพื้นห้อง นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และเศษหัวระเบิดเอ็ม 79 และอื่นๆ ปะปนอยู่ในกองเถ้าถ่านเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำพลั่ว และอุปกรณ์ที่มีอยู่มาตักกองเถ้าถ่านออกอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มองเห็นพื้นปูนทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเก็บสิ่งของออกจากห้องดังกล่าวนานกว่า 4 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ และพบจุดต้องสงสัยที่มีเศษพลาสติกที่ถูกไฟเผาไหม้ยังคงเหลือติดอยู่กับพื้นปูน รวม 4 จุด เจ้าหน้าที่ได้เก็บเอาไว้เพื่อนำไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ที่กองพิสูจน์หลักฐานส่วนกลาง ที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสายไฟอย่างละเอียด รวมทั้งแผงคัตเอาต์ไฟที่อยู่เหนือราวบันไดชั้นที่ 2 และหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บหลักฐานได้ทั้งหมด จากนั้นจึงเดินทางกลับ โดยที่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ได้ เพราะจะต้องนำไปพิสูจน์เพื่อให้ผลการพิสูจน์ออกมาเป็นที่แน่ชัดเสียก่อน จากนั้นจะรายงานความคืบหน้าให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุเพลิงไหม้ โดยมี พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เป็นประธานการสอบสวน ซึ่งหากพบว่าเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบกพร่องในหน้าที่ก็จะถูกดำเนินคดีทางวินัย และหากพบกระทำผิดเสียเอง จะเสนอต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญา และให้ชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้ทรัพย์สินของรัฐเสียหาย เบื้องต้น คาดว่าภายใน 7 วัน คงจะได้รับผลการพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการเพื่อให้ทราบผลโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนให้ความสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.) ขณะที่เปลวเพลิงกำลังโหมไหม้อาคารที่ทำการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จ.กาญจนบุรี รวมทั้งอาวุธ หัวระเบิดเอ็ม 79 และอาวุธต่างๆ ที่เก็บไว้ภายในห้องได้ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง และต่อเนื่อง แรงระเบิดทำให้หลังคากระเบื้องแตกกระจาย ส่วนฝาผนังปูนมีร่องรอยของสะเก็ดระเบิดกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงกันอย่างเต็มที่จนกระทั่งเปลวเพลิงสงบลงเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงเข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดเพื่อสำรวจความเสียหาย

แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกคนต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าภายในห้องเก็บอาวุธจุดเกิดเหตุ มีรูปพระบรมฉายาลักษณ์ 3 พระองค์ กรอบทำด้วยไม้ และกระจกแขวนติดเอาไว้ที่ฝาห้อง คือ รูปพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ตรงกลาง รูปพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ติดไว้ด้านขวา และรูปพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อยู่ในชุด พลตำรวจเอกหญิง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ระบุ วันที่ 13 ตุลาคม 2538 กรมตำรวจ

ซึ่งรูปพระบรมฉายาลักษณ์ของ 3 พระองค์ไม่มีร่องรอยของการถูกไฟไหม้ หรือถูกสะเก็ดระเบิดทำให้เสียหายเลยแม้แต่น้อย ทุกคนที่พบเห็นต่างพูดในทำนองเดียวกันว่า เป็นเพราะบุญญาธิการของทั้ง 3 พระองค์ ภายหลังมีกระแสข่าวออกไป ทำให้มีเจ้าหน้าที่รวมทั้งชาวบ้านต่างมากราบไหว้ และถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก

กำลังโหลดความคิดเห็น