เชียงราย - บรรยากาศการค้า การท่องเที่ยวในลุ่มน้ำโขงเริ่มคึกคักทั้งทางบก ทางน้ำ สินค้าเครื่องกันหนาว-ของใช้จากจีนทะลักเข้าชายแดนไทย-พม่ารับลมหนาว ขณะที่ทัวร์น้ำโขงจากสามเหลี่ยมทองคำ-สิบสองปันนาฟื้น
นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ช่วงที่กำลังย่างเข้าสู่หน้าหนาวปีนี้ ตลาดชายแดนไทย-พม่าด้าน อ.แม่สาย รวมถึงตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า คึกคักขึ้นผิดหูผิดตา บรรดาพ่อค้าแม่ขายต่างพากันนำเสื้อกันหนาวในสต๊อกออกวางแผง รวมทั้งมีสินค้าใหม่จากจีนถูกลำเลียงมาตามแม่น้ำโขง และถนนในพม่าต่อเนื่อง ทั้งเสื้อผ้า ของใช้อื่นๆ
นายบุญธรรมบอกว่า ปัจจุบันการขนส่งสินค้ราคาถูกเหล่านี้จากแหล่งผลิตในจีน โดยเฉพาะโรงงานในคุนหมิง มณฑลยูนนาน สป.จีน มายังตลาดชายแดนไทย-พม่า สะดวกกว่าอดีตมาก มีเรือขนส่งที่หลากหลายและทันสมัยขึ้น ทั้งเรือจีนและ สปป.ลาว แม้แต่เรือลาวขนาดบรรทุก 100-200 ตัน แล่นกันอย่างคึกคัก ทำให้สินค้าจากจีนสามารถไปส่งที่ท่าเรือบ้านโป่ง เมืองพง ห่างจากตลาดท่าขี้เหล็ก ประมาณ 30 กิโลเมตร ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
นายบุญธรรมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในอนาคตเส้นทางคมนาคมจะสะดวกหลากหลายมากกว่านี้ เนื่องจากพม่า และ สปป.ลาวกำลังจะเริ่มก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อม 2 ประเทศเป็นครั้งแรก ระหว่างบ้านใจละ จ.ท่าขี้เหล็ก ของพม่า กับบ้านห้วยกุ่ม เมืองลอง เขตหลวงน้ำทา สปป.ลาว ห่างจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือประมาณ 106.5 กิโลเมตร
ซึ่งถ้าสะพานนี้สร้างเสร็จจะสามารถลดระยะทางการขนส่งทั้งทางเรือในแม่น้ำโขง และทางบกผ่านถนน R3b เชื่อมจีน พม่า เชียงราย และ R3a เชื่อมจีน สปป.ลาว เชียงราย ได้ เนื่องจากระยะทางจาก อ.แม่สายไปยังบ้านใจละห่างกันไม่ถึง 60 กิโลเมตร และเมื่อข้ามสะพานไปยังแขวงหลวงน้ำทาก็จะสามารถเชื่อมกับชายแดนจีนได้ สามารถร่นระยะทางจากเดิมที่เคยใช้กันอยู่ลงมากกว่า 100 กิโลเมตร อันจะทำให้การขนส่งสินค้าตามเส้นทางนี้คึกคักมากขึ้น
“ตอนนี้การก่อสร้างสะพานคืบหน้าแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถวางเสาตอม่อในแม่น้ำโขงได้ในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ เพราะตามกำหนดสะพานจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2558”
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า กลุ่มทุนจีนเจ้าของโครงการคิงส์โรมันฯ ที่เข้าไปสัมปทานเขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้ามสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ได้ลงทุนจะก่อสร้างถนนเชื่อมจากโครงการฯ ไปยังท่าเรือเมืองเชียงกกและเชื่อมกับสะพานแห่งใหม่นี้แล้ว หลังจากเคยก่อสร้างถนนสายสามเหลี่ยมทองคำ-เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว-ตรงกันข้าม อ.เชียงของ ระยะทาง 58 กิโลเมตร เป็นถนนสองช่องจราจรจนใช้การได้อย่างสมบูรณ์แล้วในปัจจุบัน
ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวผ่านแม่น้ำโขงก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน ล่าสุดนายวชิระ รัศมีจันทร์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย และผู้บริหารโครงการโขงวิวพลาซ่า อ.เชียงแสน ได้นำคณะนักท่องเที่ยว และสื่อมวลชนออกเดินทางจากชายแดน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ล่องเรือขึ้นไปตามแม่น้ำโขง-ท่าเรือเมืองจิ่งหงหรือเชียงรุ้ง เขตปกครองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร เส้นทางท่องเที่ยวที่เคยได้รับความนิยมติดต่อกันมาหลายปี แต่ซบเซาลงตั้งแต่ปลายปี 2554 เป็นต้นมา หลังเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธ หรือโจรสลัดแม่น้ำโขงนำโดยนายหน่อคำ ออกอาละวาดถึงขั้นปล้นเรือจีน 2 ลำ ฆ่าลูกเรือรวม 13 ศพ จนถูกกวาดล้างจับกุม
นายวชิระกล่าวว่า ถือเป็นการเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำทางแม่น้ำโขงจาก อ.เชียงแสน ไปยังจีนตอนใต้อีกครั้ง โดยเรือแล่นผ่านเมืองท่าต่างๆ ในพม่า และ สปป.ลาว สู่ท่าเรือกวนเล่ย ท่าหน้าด่านของจีนได้อย่างสะดวก ซึ่งจะทำให้แม่น้ำโขงเป็นอีกทางเลือกของนักท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้พบว่ามีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีตามข้อตกลงระหว่างประเทศในการดูแลรักษาความปลอดภัย เช่น ลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจ ฯลฯ เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้เส้นทางอย่างมาก
“เส้นทางนี้ยังคงมีความสวยงามของแม่น้ำโขงตามธรรมชาติ ทั้งโขดหิน เกาะแก่ง วิถีชีวิตผู้คนริมฝั่งของประเทศต่างๆ รวมถึงการได้เห็นการขนส่งสินค้าโดยเรือบรรทุกสินค้าจีนและลาวอย่างคึกคักเช่นเดิม”
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังมีเรือสัญชาติไทยของบริษัทแม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเยนซี่ จำกัด เปิดบริการนำเที่ยวในแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรือกาสะลองคำ 80 ที่นั่ง และเรือแม่โขงเดลต้า 150 ที่นั่ง
