เชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่สำรวจผลกระทบรอยเลื่อนแม่ทาเขย่าเชียงใหม่ เบื้องต้นพบบ้านเรือนชาวบ้านร้าวแล้ว ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มผวา ถามรัฐจะสร้างอ่างเก็บน้ำตรวจสอบเรื่องรอยเลื่อนหรือยัง หวั่นเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่
หลังจากเกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 4.1 ริกเตอร์ ความลึก 3 กม. จุดศูนย์กลางที่ ต.ทุ่งหลวง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 01.19 น. ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ซึ่งเกิดจากรอยเลื่อนแม่ทาที่พาดผ่านมาจาก จ.เชียงใหม่ ที่ไม่เคยเคลื่อนไหวมานานหลายสิบปี
เบื้องต้น นายบรรจง โพธิวงค์ หัวหน้าป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ สาขาเชียงดาว และคณะ ที่ได้ออกสำรวจความเสียหายในพื้นที่ พบว่า บ้านปูนชั้นเดียวของ นางแสงหล้า นรินทร์ หมู่ 3 บ้านเหล่าแม่แวน ต.ทุ่งหลวง มีรอยร้าวแต่ไม่เสียหายมากนัก แต่ช่วงเกิดเหตุประชาชนรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เดินสำรวจในตำบลแม่แวนทั้งหมดก่อน หลังจากนี้ก็จะลงสำรวจในตำบลทุ่งหลวงต่อไป
ด้านนายสุรชัย มณีปกรณ์ นอภ.พร้าว เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะชาวบ้านหลายคนแจ้งว่ามีรอยร้าวตามบ้านเรือน แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรง หรือมีผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวก็ทำให้ประชาชนในเขตพื้นที่ใกล้เคียงหลายอำเภอ รวมทั้งตัวเมืองต่างรับรู้ถึงความรู้สึกแรงสั่นสะเทือนได้
“ศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ที่ตำบลทุ่งหลวง เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย เนื่องจากอำเภอพร้าวไม่มีตึกสูง ไม่มีโบราณสถานสำคัญ ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเกิดแผ่นดินไหวที่ อ.พร้าว นั้น เวลา 00.55 น. ก็เกิดแผ่นดินไหวที่พม่า ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ห่างประมาณ 433 กม.ด้วยแรงสั่นสะเทือน 5.2 ริกเตอร์ ซึ่งสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวได้ระบุว่า ระยะนี้มีเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4-5 ริกเตอร์ เกิดขึ้นในพม่า และจีนบ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะทำให้กระตุ้นการขยับตัวของรอยเลื่อนในไทยโดยเฉพาะภาคเหนือให้มีเหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นด้วย
ด้านชาวบ้านในอำเภอพร้าวรายหนึ่งบอกว่า ขณะนี้ทางภาครัฐกำลังดำเนินการจะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่สะรวม ต.ป่าตุ้ม อ.พร้าว ซึ่งมีการเวนคืนที่ดินจ่ายเงินให้แก่ชาวบ้านแล้ว ทางกลุ่มชาวบ้านอยากให้ทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบว่า พื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวอยู่ในแนวรอยเลื่อนแม่ทาหรือไม่ ถ้าอยู่ในแนวรอยเลื่อน ทางชาวบ้านต่างหวาดผวาหากเกิดแผ่นดินไหวจะกระทบต่ออ่างเก็บน้ำ และอาจทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้
ขณะที่นายสมบูรณ์ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง ซึ่งดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ 17 จว.ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานงานไปยังส่วนกลางเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมสำรวจความรุนแรง หรือการวัดหาพิกัดของการรับรู้ได้ของประชาชนว่า จะมีรัศมีกว้างขนาดไหน เพื่อจะได้นำไปประกอบทำแผนที่เตือนประชาชนว่า พื้นที่ไหนเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวบ้าง
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางกรมทรัพยากรธรณี ได้มีการสำรวจลอยเลื่อนทั้งหมดทั่วประเทศแล้วพบว่า มี15 จุด ในภาคเหนือมี 8 จุด ภายในปีนี้ก็จะเร่งติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหว หรือเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนให้ครบทั้งหมด เพื่อจะได้รับรู้ และแจ้งเตือนประชาชนได้เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้น
หลังจากเกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 4.1 ริกเตอร์ ความลึก 3 กม. จุดศูนย์กลางที่ ต.ทุ่งหลวง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 01.19 น. ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ซึ่งเกิดจากรอยเลื่อนแม่ทาที่พาดผ่านมาจาก จ.เชียงใหม่ ที่ไม่เคยเคลื่อนไหวมานานหลายสิบปี
เบื้องต้น นายบรรจง โพธิวงค์ หัวหน้าป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ สาขาเชียงดาว และคณะ ที่ได้ออกสำรวจความเสียหายในพื้นที่ พบว่า บ้านปูนชั้นเดียวของ นางแสงหล้า นรินทร์ หมู่ 3 บ้านเหล่าแม่แวน ต.ทุ่งหลวง มีรอยร้าวแต่ไม่เสียหายมากนัก แต่ช่วงเกิดเหตุประชาชนรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เดินสำรวจในตำบลแม่แวนทั้งหมดก่อน หลังจากนี้ก็จะลงสำรวจในตำบลทุ่งหลวงต่อไป
ด้านนายสุรชัย มณีปกรณ์ นอภ.พร้าว เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะชาวบ้านหลายคนแจ้งว่ามีรอยร้าวตามบ้านเรือน แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรง หรือมีผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวก็ทำให้ประชาชนในเขตพื้นที่ใกล้เคียงหลายอำเภอ รวมทั้งตัวเมืองต่างรับรู้ถึงความรู้สึกแรงสั่นสะเทือนได้
“ศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ที่ตำบลทุ่งหลวง เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย เนื่องจากอำเภอพร้าวไม่มีตึกสูง ไม่มีโบราณสถานสำคัญ ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเกิดแผ่นดินไหวที่ อ.พร้าว นั้น เวลา 00.55 น. ก็เกิดแผ่นดินไหวที่พม่า ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ห่างประมาณ 433 กม.ด้วยแรงสั่นสะเทือน 5.2 ริกเตอร์ ซึ่งสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวได้ระบุว่า ระยะนี้มีเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4-5 ริกเตอร์ เกิดขึ้นในพม่า และจีนบ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะทำให้กระตุ้นการขยับตัวของรอยเลื่อนในไทยโดยเฉพาะภาคเหนือให้มีเหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นด้วย
ด้านชาวบ้านในอำเภอพร้าวรายหนึ่งบอกว่า ขณะนี้ทางภาครัฐกำลังดำเนินการจะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่สะรวม ต.ป่าตุ้ม อ.พร้าว ซึ่งมีการเวนคืนที่ดินจ่ายเงินให้แก่ชาวบ้านแล้ว ทางกลุ่มชาวบ้านอยากให้ทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบว่า พื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวอยู่ในแนวรอยเลื่อนแม่ทาหรือไม่ ถ้าอยู่ในแนวรอยเลื่อน ทางชาวบ้านต่างหวาดผวาหากเกิดแผ่นดินไหวจะกระทบต่ออ่างเก็บน้ำ และอาจทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้
ขณะที่นายสมบูรณ์ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง ซึ่งดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ 17 จว.ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานงานไปยังส่วนกลางเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมสำรวจความรุนแรง หรือการวัดหาพิกัดของการรับรู้ได้ของประชาชนว่า จะมีรัศมีกว้างขนาดไหน เพื่อจะได้นำไปประกอบทำแผนที่เตือนประชาชนว่า พื้นที่ไหนเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวบ้าง
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางกรมทรัพยากรธรณี ได้มีการสำรวจลอยเลื่อนทั้งหมดทั่วประเทศแล้วพบว่า มี15 จุด ในภาคเหนือมี 8 จุด ภายในปีนี้ก็จะเร่งติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหว หรือเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนให้ครบทั้งหมด เพื่อจะได้รับรู้ และแจ้งเตือนประชาชนได้เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้น