ราชบุรี - นาข้าว พืชไร่ เกษตรกรชาวราชบุรีจมน้ำได้รับความเสียหาย ขณะที่ผู้ว่าฯ ราชบุรี สั่งเฝ้าระวังนํ้าป่าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงภัย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (8 ต.ค.) สภาพอากาศที่จังหวัดราชบุรี ยังคงปกคลุมไปด้วยเมฆ และมีฝนตกลงมาเป็นระยะอย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ โดยน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ระดับนํ้าในแม่นํ้าภาชีสูงขึ้นจนทําให้คอสะพาน 2 แห่งในตําบลสวนผึ้งขาด ประชาชนไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งทางทหารช่างราชบุรีได้นําสะพานแบริ่งไปประกอบให้ประชาชนใช้สัญจรชั่วคราวแล้ว
ขณะที่พื้นที่เขตอำเภอเมือง ระดับนํ้าคลองห้วยอ่างทอง บริเวณหน้าวัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ หมู่ที่ 4 ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง ระดับนํ้าเพิ่มสูงขึ้น มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณติดลำห้วยต้องระมัดระวังนํ้าล้นตลึงเข้าท่วมบ้านเรือน โดยเฉพาะพื้นที่พืชผลทางการเกษตร เช่น นาข้าว พืชไร่ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกถั่วฝักยาวที่กำลังขายได้ราคาดี อยู่ในช่วงกำลังเก็บเกี่ยวขายช่วงเทศกาลกินเจ
อย่างของ จ.ส.อ.สมเกียรติ มณีโชติ ปลูกถั่วฝักยาวเก็บได้วันละ 50 กิโลกรัม ส่งขายกิโลกรัมละ 25 บาท ได้เงินวันละเกือบ 1,000 บาท ขณะนี้ถูกน้ำเข้าท่วมขังไม่สามารถเก็บขายได้ นอกจากนี้ พื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่บริเวณริมคลองห้วยอ่างทอง หน้าวัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ และทุ่งใหญ่นครบาลนํ้าเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมบ้างแล้ว
สําหรับคลองห้วยอ่างทองนั้น รับนํ้าป่ามาจากพื้นที่ตําบลอ่างหิน ตําบลทุ่งหลวง อําเภอปากท่อ ตําบลนํ้าพุ ตําบลดอนแร่ อําเภอเมือง จะไหลผ่านพื้นที่ตําบลอ่างทอง ตําบลดอนตะโก ตําบลคูบัว และไหลลงสู่แม่นํ้าแม่กลอง ที่ตําบลบ้านไร่ อําเภอเมือง ซึ่งพื้นที่ด้านล่างจะเป็นแอ่งกระทะหากระดับนํ้าในคลองห้วยอ่างทองเพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลให้พื้นที่เกษตร และบ้านเรือนชาวบ้านริมคลองบริเวณดังกล่าวถูกนํ้าท่วมได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในเขตอําเภอเมืองนั้นชาวบ้านยังไม่ได้รับผลกระทบมากหนัก หากฝนไม่ลงมาเพิ่ม
ขณะที่นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ในพื้นที่อําเภอสวนผึ้งนั้นยังคงต้องเฝ้าระวังระดับนํ้าในแม่นํ้าภาชี อีกในช่วง 2-3 วันนี้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดูแล และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานให้ผู้ว่าฯ ทราบเป็นระยะเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน