ศรีสะเกษ - 4 อำเภอพื้นที่ปลายน้ำ จ.ศรีสะเกษ ยังท่วมหนักเป็นบริเวณกว้าง ระดับน้ำสูงต่อเนื่อง ไร่นาจมบาดาลเสียหายกว่า 5 หมื่นไร่ ประชาชนเดือดร้อน 1 แสนครัวเรือน สังเวยน้ำท่วมแล้ว 11 ราย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณแม่น้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ น้ำจากแม่น้ำมูลยังเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมไร่นา บ้านเรือนของประชาชนเป็นบริเวณกว้าง และระดับน้ำท่วมสูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากแม่น้ำมูลเป็นแม่น้ำสายหลักที่มีลำห้วยต่างๆ ไหลลงมาสมทบกันปริมาณมากก่อนไหลลงไปยัง จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้มี 4 อำเภอพื้นที่ปลายน้ำของ จ.ศรีสะเกษ คือ อ.บึงบูรพ์ อ.ศิลาลาด อ.ยางชุมน้อย และ อ.กันทรารมย์ ยังถูกน้ำท่วมอย่างหนัก
ส่วน 12 อำเภอพื้นที่ต้นน้ำ คือ อ.ขุนหาญ ภูสิงห์ ขุขันธ์ ไพรบึง โนนคูณ เบญจลักษ์ ราษีไศล กันทรลักษ์ ศรีรัตนะ พยุห์ น้ำเกลี้ยง ปรางค์กู่ น้ำท่วมได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติหมดแล้ว ขณะที่อำเภอพื้นที่กลางน้ำ คือ อ.เมืองศรีสะเกษ วังหิน อุทุมพรพิสัย เมืองจันทร์ ห้วยทับทัน และ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว 5 อำเภอ ยกเว้น อ.เมืองศรีสะเกษ ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ และระดับน้ำมีแนวโน้มเริ่มลดลงแล้วอย่างช้าๆ ซึ่งจากการวัดระดับน้ำของวันนี้ (5 ต.ค.) เวลา 07.00 น. ระดับน้ำลำห้วยสำราญ ที่สถานี M.9 สะพานขาว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ อยู่ที่ 11.30 เมตร สูงกว่าตลิ่งอยู่ 2.30 เมตร
นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษกล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมจ.ศรีสะเกษ ได้ทำให้พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ 572,695 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะเสียหายอย่างสิ้นเชิงประมาณ 397,495 ไร่ ถนนเสียหาย 510 สาย สะพานชำรุด 15 แห่ง ฝาย และทำนบพัง 23 แห่ง ท่อระบายน้ำเสียหาย 210 แห่ง วัดถูกน้ำท่วม 148 แห่ง ใน 16 อำเภอ และมีสถานที่ราชการ 12 แห่ง โรงเรียน 7 แห่งที่ถูกน้ำท่วม มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 107,589 ครัวเรือน 515,346 คน และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม จำนวน 11 ราย
ล่าสุด ได้ประกาศให้เป็นเขตการให้การช่วยเหลือประสบภัยพิบัติแล้วทั้ง 22 อำเภอ ของ จ.ศรีสะเกษ ส่วนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษนั้นมี 15 ชุมชน ที่ถูกน้ำท่วมหนัก และขณะนี้ระดับน้ำท่วมเริ่มลดลงแล้วอย่างช้าๆ ประชาชนได้พากันเข้าไปทำความสะอาดบ้าน และดูแลทรัพย์สินที่ถูกน้ำท่วมชำรุดเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกด้านอย่างเต็มที่แล้ว นายประทีปกล่าว
