ศูนย์ข่าวศรีราชา - ค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี เสียหายแล้วกว่า 50 ล้านบาท หลังน้ำป่าจาก อ.พนมปรึก ของกัมพูชา และจากเทือกเขาสอยดาว อ.สอยดาว ไหลทะลักท่วมจุดผ่อนปรน และจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม
นายสมบัติ จึงตระกูล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี เผยว่า เมื่อวลาประมาณ 02.00 น.วันนี้ (5 ต.ค.) ได้เกิดเหตุคลองเก็บน้ำบริเวณจุดผ่อนปรนไทย-กัมพูชา บริเวณหมู่บ้านซับตารี ม.2 ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี แตก หลังมีน้ำป่าจาก อ.พนมปรึก จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา และน้ำป่าจากเทือกเขาสอยดาว อ.สอยดาว ไหลทะลักเข้าสู่คลองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีฝนตกใน อ.สอยดาว ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำป่าจากประเทศกัมพูชา และจากฝั่งไทยไหลบ่าสู่จุดผ่อนปรน
ล่าสุด น้ำป่าจาก 2 ประเทศได้ไหลเข้าท่วมจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา บริเวณหมู่บ้านแหลม ม.4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และน้ำป่ายังได้ท่วมล้นบริเวณประตูจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม โดยมีระดับน้ำเสูงขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าในวันนี้น้ำจะเข้าท่วมบริเวณตลาดชายแดน และจุดผ่านแดนถาวร บ้านแหลมเป็นบริเวณกว้าง
ทั้งนี้ อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา ยังเผยอีกว่า น้ำป่าที่ท่วมตามแนวตะเข็บชายแดนด้าน อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน ทำให้การค้าระหว่างไทยและกัมพูชา และการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังกัมพูชาต้องหยุดชะงัก และไม่สามารถบรรทุกสินค้าไปยังกัมพูชาได้ ทำได้เพียงการขนส่งสินค้าในปริมาณไม่มากที่ใช้แรงงานคนแบกข้ามจากฝั่งไทยไปกัมพูชา และขณะนี้มูลค่าการค้าเสียหายแล้วกว่า 50 ล้านบาท
“ล่าสุด สมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดน กำลังเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากปริมาณน้ำจาก 2 ประเทศมีมาก ประกอบกับยังมีฝนตกในพื้นที่เป็นระยะ จึงต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายสมบัติกล่าว