ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ม็อบข้าวโพดเชียงใหม่เลิกชุมนุมตัวกลับบ้านแล้ว หลังส่วนใหญ่พอใจมติ ครม.แทรกแซงราคา 7 และ 9 บาท แกนนำแจงแม้ข้อเรียกร้องยังไม่ได้ครบทุกข้อแต่ถือว่าเป็นข้อเสนอจากภาครัฐทำให้เชื่อมั่นได้ ยันจากนี้ต้องดูภาคปฏิบัติถ้าหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่เอาจริง-ไม่จริงใจออกมาเคลื่อนไหวอีกแน่
กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม ได้ประกาศยุติการชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว พร้อมทั้งเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากที่ในวันนี้ (1 ต.ค. 2556) คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้แทรกแซงราคาข้าวโพดที่กิโลกรัมละ 7 บาท สำหรับข้าวโพดความชื้น 30% และกิโลกรัมละ 9 บาท สำหรับข้าวโพดความชื้น 14.5%
นายอุทัย บุญเทียม ประธานเครือข่ายข้าวโพดอำเภอแม่แจ่มกล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรมีมติที่จะยุติการชุมนุมและเดินทางกลับในวันนี้ หลังจากที่ได้เดินทางมาชุมนุมตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา และในวันนี้ได้รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาข้าวโพของคณะรัฐมนตรีแล้ว
นายอุทัยเปิดเผยว่า แม้ข้อเรียกร้องที่ทางกลุ่มเกษตรกรเสนอต่อรัฐบาลจะยังไม่ได้รับการตอบสนองทั้งหมด แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ก็พอใจกับแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาลในระดับหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นข้อเสนอที่มาจากทางรัฐบาลโดยตรง อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากผู้แทนของนายกรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ทำให้กลุ่มเกษตรกรมั่นใจและยินยอมยุติการชุมนุมดังกล่าว
ส่วนการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าให้ความสำคัญกับขั้นตอนการปฏิบัติและมีความจริงใจกับเกษตรกรมากน้อยเพียงใด หากพบว่าการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ไม่มีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา กลุ่มเกษตรกรก็จะออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งอย่างแน่นอน
กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม ได้ประกาศยุติการชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว พร้อมทั้งเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากที่ในวันนี้ (1 ต.ค. 2556) คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้แทรกแซงราคาข้าวโพดที่กิโลกรัมละ 7 บาท สำหรับข้าวโพดความชื้น 30% และกิโลกรัมละ 9 บาท สำหรับข้าวโพดความชื้น 14.5%
นายอุทัย บุญเทียม ประธานเครือข่ายข้าวโพดอำเภอแม่แจ่มกล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรมีมติที่จะยุติการชุมนุมและเดินทางกลับในวันนี้ หลังจากที่ได้เดินทางมาชุมนุมตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา และในวันนี้ได้รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาข้าวโพของคณะรัฐมนตรีแล้ว
นายอุทัยเปิดเผยว่า แม้ข้อเรียกร้องที่ทางกลุ่มเกษตรกรเสนอต่อรัฐบาลจะยังไม่ได้รับการตอบสนองทั้งหมด แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ก็พอใจกับแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาลในระดับหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นข้อเสนอที่มาจากทางรัฐบาลโดยตรง อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากผู้แทนของนายกรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ทำให้กลุ่มเกษตรกรมั่นใจและยินยอมยุติการชุมนุมดังกล่าว
ส่วนการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าให้ความสำคัญกับขั้นตอนการปฏิบัติและมีความจริงใจกับเกษตรกรมากน้อยเพียงใด หากพบว่าการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ไม่มีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา กลุ่มเกษตรกรก็จะออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งอย่างแน่นอน
